<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เหรียญ Crypto ตัวไหนบ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และน่าจับตามอง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันคุ้มครองโลก (Earth Day) เป็นวันที่มีการรำลึกเฉลิมฉลองเป็นธรรมเนียมประจำปีในทุกวันที่ 22 เมษายนซึ่งในวันนี้ถือเป็นวันครบรอบในปีที่ 52 ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันดีที่จะให้ทุกคนได้ลองหันมองถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราตลอดไปจนการรณรงค์ให้ผู้คนนั้นควรเริ่มหันมารักษาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น

การถือกำเนิดขึ้นของเทคโนโลยีบล็อกเชนและ web3 ได้ให้การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในเรื่องของความโปร่งใสต่อสาธารณะและเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นมีศักยภาพในการให้บริการตามวิสัยทัศน์ที่ถูกกำหนดโดยเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติและตามความตกลงปารีส (Paris Agreement)

ซึ่งทาง Cointelegraph ได้เข้าพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจำนวนหนึ่งเพื่อสอบถามความคิดเห็นและแนวคิดของพวกเขาเกี่ยวกับวิธีที่บริษัท web3 สามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกในเรื่องของสภาพอากาศโลกโดยอาศัยพลังของเทคโนโลยี บล็อกเชน

Sander DiAngelis หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและหุ้นส่วนที่ Toucan Protocol ให้การสนับสนุนการควบรวมของในการริเริ่มทางกายภาพและดิจิทัลโดยเขาระบุว่า “ทำ carbon credit ให้เป็นโทเค็น” ช่วยให้สามารถสร้าง “อ่างเก็บคาร์บอนเสมือนจริงที่ส่งผลในเชิงบวกต่อโลกแห่งความเป็นจริง”

โปรเจ็กต์ด้านสภาพภูมิอากาศเพื่อการกุศลของ Coinbase ซึ่งจะจัดสรร 1% ของรายได้ของบริษัทให้กับโปรเจ็กต์ต่าง ๆ  ที่ต้องการยกระดับความเป็นประชาธิปไตยของคริปโตเพิ่งได้ทุนเป็นรางวัลสนับสนุนระบบนิเวศมูลค่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แก่ Toucan Protocol เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของตลาดคาร์บอน

โปรเจ็กต์ต่าง ๆ เช่น Pachama และ Dovu กำลังใช้เทคโนโลยี AI และกราฟแฮชเพื่อคำนวณ, หาปริมาณและรายงานข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์เพื่อวัตถุประสงค์ในการเพิ่มความรับผิดชอบและความโปร่งใสในอุตสาหกรรมองค์กรและ web3

ด้วยความร่วมมือกับกลุ่มปฏิบัติการ เช่น REDD+ Pachama ได้จัดตั้งโปรเจ็กต์ระบบนิเวศเพื่อการบูรณะจำนวนหนึ่ง เช่น โปรเจ็กต์ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าชายฝั่งของโคลอมเบียที่ใช้ชื่อว่า Bajo Calima y Bahía Málaga ที่เมื่อจัดทำมาได้จะครบ 10 ปีแล้วนั้นคาร์บอนมากกว่า 1.2 ล้านเมตริกตันได้ถูกแยกออกจากสิ่งแวดล้อมผ่านการออกสินเชื่อ

ภายในภาคส่วนของคริปโตองค์กรต่าง ๆ เช่น Climate Chain Coalition และ Crypto Climate Accord ซึ่งทั้งคู่ได้ถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 34 จาก 100 อันดับแรกของปี 2022 ของทาง Cointelegraph ได้เดินหน้าในการส่งเสริมความร่วมมือเป็นอย่างมากและให้คำมั่นสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมกับภาคส่วนของคริปโต

Mitch Liu CEO ของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอบล็อกเชน Theta Network ได้แชร์ความเชื่อของเขาว่าความสำคัญทางวัฒนธรรมที่ถูกแขวนอยู่บนวิกฤตการเปลี่ยนแปลงในเรื่องสภาพภูมิอากาศสามารถกระตุ้นการสร้างโซลูชันการกระจายอำนาจที่ทันสมัยได้

เขาอ้างถึงงานของ ClimateDAO ในการ “รวบรวมทรัพยากรของกลุ่มสมาชิกเพื่อเข้าซื้อหุ้นในบริษัทขนาดใหญ่ที่ก่อมลพิษเพื่อให้กิจกรรมของพวกเขามีความยั่งยืนมากขึ้นมาจากภายใน” นั่นเป็นตัวอย่างที่สำคัญของนวัตกรรมนี้เขาพูดต่อไปอีกว่า

“เมื่อ NFT ได้เข้ามาเป็นกระแสหลักในการถูกพูดถึงในปีที่ผ่านมา ปฏิกิริยาตอบสนองในด้านสิ่งแวดล้อมก็รุนแรงขึ้นมีการสันนิษฐานไปในทิศทางที่เลวร้ายว่า NFT ทั้งหมดนั้นไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

Liu กล่าวว่าจากการประเมินโดยครอบคลุมแล้วนั้น “Theta ใช้พลังงานเพียง 0.05% เมื่อเทียบกับ chain อย่าง Bitcoin และ Ethereum” 

Christian Hasker หัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดของ Hedera Hashgraph พูดถึง “ความมุ่งมั่นเพื่อการทำ Web3 ที่สะอาด” ภายในพื้นที่เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (DLT) โดยเน้นย้ำถึงภาระผูกพันโดยรวมของอุตสาหกรรมคริปโตเพื่อให้แน่ใจว่า “เราไม่เพียงมีความรู้และวิธีแก้ปัญหาเพื่อให้แน่ใจว่าต่อไปการสร้างอินเทอร์เน็ตให้มีความยั่งยืนแต่ที่สำคัญคือเรามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราได้ทำด้วย”

ก่อนที่ Hedera จะให้คำมั่นสัญญาอย่างต่อเนื่องในการสร้างแอปพลิเคชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภา 26 คน พวกเขากล่าวทราบถึงรู้ดีถึงข้อเสียของกลไกฉันทามติ Proof-of-Work ถึงแม้จะมีการปรับใช้หลักการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยระบุว่า

“เป็นความเชื่อของบริษัทเราว่าการทำให้คาร์บอนเป็นกลางในที่เลเยอร์ 1 เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เราทำตามคำมั่นสัญญาของอนาคตที่ยั่งยืนที่สร้างขึ้นบน DLT วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาพลังงานคือการไม่ใช้มันตั้งแต่แรกซึ่งเป็นความรู้สึกที่อุตสาหกรรมและองค์กรขนาดใหญ่ร่วมกันเสนอเป้าหมายในการทำให้คาร์บอนนั้นเป็นศูนย์”