ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin ได้ร่วงลงประมาณ 13% จากจุดสูงสุดใหม่ที่ 73,835 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ระดับ 60,000 ดอลลาร์ชั่วคราว
การปรับฐานลงในครั้งนี้ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นผลมาจากสภาวะตลาดที่ร้อนแรงเกินไป ซึ่งนักวิเคราะห์เรียกว่าเป็น “pre- halving retrace” ก่อนหน้าเหตุการณ์ “Bitcoin halving” ซึ่งจะกำลังเกิดขึ้นในอีกประมาณ 30 วันข้างหน้า
ตามรายงานของ CryptoQuant ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน ระบุว่าวัฏจักรการเติบโตของบิทคอยน์ยังไม่สิ้นสุดลง เนื่องจากระดับการลงทุนจากนักลงทุนรายใหม่ยังอยู่ในระดับต่ำ และมูลค่าราคายังไม่ถึงระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในอดีต
รายงานประจำสัปดาห์ของ CryptoQuant ระบุว่า 48% ของการลงทุนใน Bitcoin ล้วนมาจากนักลงทุนระยะสั้น โดยปกติแล้ววัฏจักรการเติบโตจะสิ้นสุดเมื่อมีการลงทุนจากนักลงทุนรายใหม่เหล่านี้ในสัดส่วน 84-92% ตามการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ CryptoQuant
จากกราฟที่แสดง ระบุว่าสัดส่วนการลงทุนจากนักลงทุนระยะสั้นครั้งนี้อยู่ที่ระดับ 52% ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงกลางปี 2019 เมื่อ Bitcoin เคยปรับฐานราคาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนักลงทุนระยะสั้นควรจับตามองสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ รายงานของ CryptoQuant ยังระบุด้วยว่า ค่าสถิติวัดมูลค่าของ Bitcoin ในปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่าระดับจุดสูงสุดในอดีต
“ ดัชนีผลกำไรขาดทุน (P&L) ของ CryptoQuant ยังคงอยู่นอกเหนือโซนจุดสูงสุดของตลาด (พื้นที่สีแดง) และ อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ราย 1 ปีของดัชนีดังกล่าว”
ดัชนี PnL ของ CryptoQuant ประกอบด้วยสามดัชนีชี้วัดบนบล็อกเชนที่แสดงถึงระดับความคุ้มค่าในการลงทุนBitcoin โดยในอดีตดัชนีนี้เคยบ่งชี้ว่าตลาดคริปโตจะเข้าสู่วัฏจักรการเติบโต (Bull Cycle) ในปี 2024
อย่างไรก็ตาม จากกราฟแสดงให้เห็นว่าระดับของดัชนีในปัจจุบันนั้นต่ำกว่าระดับที่เคยสังเกตเห็นในช่วงจุดสูงสุดของตลาดในวัฏจักรการเติบโตปี 2013, 2017 และ 2021 เล็กน้อย นั่นหมายความว่า แม้ดัชนี PnL จะบ่งชี้ว่ายังไม่ใช่จุดสูงสุดของตลาด แต่ระดับปัจจุบันก็ยังไม่สูงเท่ากับช่วงพีคของวัฏจักรที่ผ่านมา
ปรากฎการณ์ Bitcoin Halving จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า
นอกเหนือจากตัวชี้วัดดังกล่าวแล้ว ปรากฎการณ์ Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า ยังเป็นแรงผลักดันที่ส่งหนุนราคา Bitcoin ให้มีแนวโน้มที่พุ่งสูงขึ้นคล้ายกับรูปกราฟพาราโบลา
ซึ่งในอดีตราคา Bitcoin จะมีการปรับฐานขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ Halving เสมอ และทุกๆครั้งที่เกิดเหตุการณ์ Halving จะนำไปสู่สภาวะตลาดกระทิงของ Bitcoin อย่างชัดเจน
ที่มา: cointelegraph