Beincrypto สำนักข่าวคริปโตประเทศอังกฤษได้มุ่งความสนใจในประเทศไทยต้นเดือนที่ผ่านมา หลังกรมสรรพากรของประเทศไทยได้ประกาศว่าจะเก็บภาษี crypto จากกำไร 15% โดยยึดถือว่าการซื้อขาย การขุด และอื่น ๆ อยู่ในรายละเอียดการเก็บภาษีทั้งหมด โดยคาดว่ารัฐบาลจะออกมาสรุปรายละเอียดทั้งหมดและขจัดความสับสนนี้อีกครั้งในวันที่ 20 มกราคม
สื่อนอกมองว่าความชัดเจนและกฎระเบียบ crypto ในประเทศนั้นได้รับการต้อนรับจากคนส่วนใหญ่ แต่ยังคงมีเสียงตอบรับเชิงลบต่อแนวคิดการจัดเก็บภาษีคริปโตที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันรัฐบาลกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากการล็อกดาวน์ที่กินเวลานนานเกือบสองปี ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กหลายพันรายที่ต้องอาศัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศต่างล้มลงกันเป็นโดมิโน่
โอกาสสร้างรายได้สำหรับคนรุ่นใหม่
กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า หนึ่งในนักการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษี crypto รูปแบบใหม่ โดยเขาระบุว่าธุรกรรมที่ทำกำไรทั้งหมดจะต้องเสียภาษี 15% และการคำนวณรายได้จะกลายเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อน พร้อมทั้งเสนอให้ “กรมสรรพากรกำลังเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนคริปโตเป็นผลิตภัณฑ์”
“ดังนั้นควรจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสกุลเงินดิจิทัล โดยจะต้องเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งขาซื้อและขายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาท”
พรรคการเมืองอื่นๆ ได้แสดงความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยกับ จักรพงษ์ แสงมณี จากพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่านักลงทุน crypto ได้จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปแล้ว ดังนั้นภาษีเพิ่มเติมจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อย แต่เป็นประโยชน์ต่อสถาบันที่นำไปสู่ความไม่เท่าเทียมกันมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีช่องว่างความมั่งคั่งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกตามข้อมูลของ Credit Suisse
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวเสริมว่า รัฐบาลขาดวิสัยทัศน์ในการพยายามเก็บภาษี crypto ในประเทศแทนที่จะพยายามส่งเสริมสินทรัพย์ดิจิทัล สิ่งนี้จะปิดกั้นโอกาสในการสร้างรายได้สำหรับคนรุ่นใหม่
ความเชื่อมั่นใน crypto ของธนาคาร
สื่อนอกเผยว่าประเทศไทยได้เห็นความสนใจใน crypto มากยิ่งขึ้นในช่วงตลาดกระทิงปี 2021 ซึ่งแทนที่การลงทุนแบบหุ้นที่จำกัดเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่ร่ำรวย แต่ crypto กลายมาเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
ทั้งนี้สื่อนอกได้มองเห็นการต่อต้านสินทรัพย์ดิจิทัลจากธนาคารกลางอย่างรุนแรง แม้ว่าธนาคารายย่อนจำนวนหนึ่งจะเริ่มลงทุนใน cryptocurrency มากยิ่งขึ้น
ท้ายที่สุดในปีที่แล้วธนาคารแห่งประเทศไทยได้เตือนนักลงทุนและธุรกิจหลายครั้งว่า “ไม่ยอมรับคริปโตสำหรับการชำระเงิน” โดยอ้างว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังย่ำแย่
ที่มา : beincrypto