ในขณะที่ Bitcoin และ Altcoin ตัวอื่นๆ ฟื้นตัวในช่วงเดือนธันวาคมของปี 2017 ที่ผ่านมา กระแสการระดมทุน ICO ดูเหมือนว่ากำลังไหลเวียนอย่างเงียบ แต่รุนแรงและเชี่ยวกราก โดยหากเราดูจากการตื่นตัวของสื่อกระแสหลักนั้นจะเริ่มเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากระแสดังกล่าวเริ่มที่จะโผล่พ้นขึ้นมาจากใต้ดินแล้ว ที่น่าสนใจที่สุดคือเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มูลค่าของตลาดการระดมทุนทั้งหมดมียอดเกิน 1 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
เพียงการขายเล็กๆ แต่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่
เราจะเห็นได้ชัดว่าปัจจุบันการขายเหรียญ ICO นั้นเริ่มมีให้เห็นกันเกลื่อนกลาด ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลือกสำหรับนักลงทุนมากเกินไป โปรเจ็คส่วนใหญ่ไม่มีแม้กระทั่งข้อมูลของนักพัฒนาและเจ้าของ ทำให้เหรียญ ICO ที่มีลักษณะ “ไร้ cap” (หรือเป้าหมายในการระดมทุนสูงสุด) เริ่มไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป การระดมทุน ICO ล่าสุดที่สามารถทำสถิติสูงสุดได้ที่ 200 ล้านดอลลาร์นั้นเป็นของ Filecoin ที่เปิดระดมทุนในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ซื้อเหรียญของพวกเขานั้นเป็นสถาบันและบริษัทการลงทุน
ก่อนหน้านั้นการระดมทุน ICO ของ Tezos ที่มีมูลค่าถึง 232 ล้านดอลลาร์ ก็เกิดปัญหาภายในองค์กร นั่นอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่การระดมทุน ICO ในไตรมาสที่สี่ในปี 2017 ลดลงในเดือนธันวาคม ข้อสรุปของการระดมทุน ICO ที่จัดทำโดย Sirin Labs นั้นเผยให้เห็นว่าพวกเขาสามารถระดมทุนไปได้ทั้งหมด 158 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังมีบริษัท Bankex (70 ล้านดอลลาร์), Nebulas (60 ล้านดอลลาร์), และ Blockstack (52 ล้านดอลลาร์)
ปี 2018 ดูเหมือนจะเป็นปีที่จะมาทำลายสถิติ
เดือนธันวาคมเป็นเดือนแรกที่การระดมทุน ICO มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ โดยสิ้นปีมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์โดยตัวเลขเป็นส่วนใหญ่นั้นมาจาก Sirin Labs และ Bankex ตามที่ Tokendata สรุปมานั้นหมายความว่าในปี 2017 มีการระดมทุน ICO มูลค่าจำนวนทั้งสิ้น 5.6 พันล้านดอลลาร์ มาจาก ICO ทั้งหมด 442 ตัวโดยมีค่ามัธยฐานอยู่ที่ 4.5 ล้านดอลลาร์
คุณภาพไม่ใช่ปริมาณ
นักลงทุนหลาย ๆ คนมองว่าการระดมทุน ICO ยังสามารถทำกำไรได้อีกไกล และคาดว่าน่าจะเพิ่มมูลค่าเป็นล้านๆ โดยอัตโนมัติ แต่กระนั้นพบว่ามีเพียง 35% ของ ICO จำนวนทั้งหมด 400 ตัวเท่านั้นที่รายงานตัวเลขการระดมทุนของพวกเขา แต่ส่วนที่เหลือที่ไม่ได้มารายงานก็อาจแปลได้ว่าล้มเหลว…
มันอาจจะเป็นที่น่าแปลกใจถ้าค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนของนักลงทุน ICO ในปีนี้มากกว่าของปี 2017 เมื่อบริษัทสตาร์ทอัพหลาย ๆ แห่งเริ่มกระโดดเข้ามาเปิดขาย ICO เพราะหวังว่าจะ “รวยเร็ว” โดยที่ยังไม่มีโปรเจ็คเสร็จเป็นชิ้นเป็นอัน การจะมองหาเหรียญ ICO ที่มีค่าแบบสมัยแรก ๆ อาจเป็นไปด้วยความยากมากขึ้น จนอาจเรียกได้ว่าเป็นเพชรในตมสำหรับปีนี้ แต่นั่นอาจเป็นเรื่องดี เนื่องจากว่าความนิยมของมันได้ทำการผลักดันให้ผู้ออกกฎหมายด้านการเงินในแต่ละประเทศหาทางกำกับดูแล ICO และปกป้องนักลงทุน นั่นหมายความว่าบริษัทแต่ละบริษัทจะได้แข่งขันกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นต่อไปด้วย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น