กฟภ.ร่วมกับ ตร.นำหมายศาลบุกตรวจลักใช้ไฟภายในหมู่บ้านดังกาญจน์ขุดบิตคอยน์ มูลค่าของกลาง-รัฐเสียหาย 8 ล้าน
เมื่อวันที่ 25 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา มหารมย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ นุชสาย ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองกาญจนบุรี ร่วมกับ พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี และส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันนำหมายค้นของศาลจังหวัดกาญจนบุรี เข้าตรวจค้น 2 จุด คือ จุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านชื่อดัง ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี และจุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
จากการตรวจสอบ พบการละเมิดใช้ไฟฟ้า ซึ่งขณะตรวจค้น วัดค่าใช้งานรวมได้ 53 กิโลวัตต์ (kW) โดยภายในบ้านพบเปิดแอร์เย็นฉ่ำ พบชุดคอมพิวเตอร์ขุดบิตคอยน์ จำนวนกว่า 21 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ประกอบหลายรายการ มูลค่าของกลางและความเสียหายในการลักลอบใช้ไฟฟ้า ทั้งสิ้นกว่า 8 ล้านบาท พร้อมทั้งนำผู้ครอบครองสถานที่ไปยัง สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อทำการสอบสวนและขยายผลพร้อมดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายวัฒนา มหารมย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี เผยว่า การลักลอบใช้ไฟฟ้า สามารถตรวจพบได้จากฐานข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของ PEA การละเมิดการใช้ไฟฟ้านอกจากจะผิดกฎหมายในคดีแพ่งและอาญาแล้ว ยังเป็นการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร รวมถึงเกิดเพลิงไหม้ เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
สำหรับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอาคารปล่อยเช่า ควรตรวจสอบผู้เช่าว่ามีการใช้งานอาคารในลักษณะผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหากใครพบเห็นการละเมิดการใช้ไฟฟ้าที่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ 1129 PEA Contact Center หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่
สำหรับการเข้าตรวจสอบการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าครั้งนี้ เนื่องจากมีชาวบ้านในหมู่บ้านแจ้งว่า ภายในบ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนอยู่อาศัย นานๆ จะมาสักครั้ง แต่เกิดมีเสียงดัง ชาวบ้านเกรงจะเกิดอันตราย จึงแจ้งการไฟฟ้าให้ตรวจสอบ และก็ไม่เคยเห็นการขนอุปกรณ์ทั้งหมดเข้าไปในบ้าน คาดว่าน่าจะอาศัยช่วงที่เพื่อนบ้านออกไปทำงานกันหมดแล้ว อุปกรณ์ถึงมากมายขนาดนี้ และคาดว่าเจ้าของบ้านน่าจะใช้อุปกรณ์สั่งการผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากบางครั้งมีเสียงดังจนน่ากลัว และรบกวนคนในหมู่บ้านทั้งกลางวันและกลางคืน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านผิดสังเกต และเกิดความสงสัยจากเสียงที่ดังโดยไม่มีคนพักอาศัย
ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพร้อมหมายศาล จนพบว่าบ้านดังกล่าวมีการลักลอบใช้ไฟฟ้า โดยภายในบ้านพบอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการกระทำผิดอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจยึดอุปกรณ์ของกลางทั้งหมด ส่งไปทำการตรวจสอบว่าอุปกรณ์เหล่านั้นใช้ประกอบการกระทำผิดในรูปแบบใดบ้างต่อไป
ทั้งนี้ บ้านหลังดังกล่าวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ไปแล้วครั้งหนึ่ง จนทำให้อุปกรณ์ลักษณะเดียวกันวอดเสียหายไปจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้สงสัยว่าอุปกรณ์ที่ถูกไฟไหม้เสียหายในครั้งนั้น คืออุปกรณ์เดียวกันในการลักลอบใช้ไฟฟ้านี้ก็เป็นได้ จากนั้นทางเจ้าของบ้านได้มาทำการปรับปรุงบ้านขึ้นมาใหม่ แล้วกลับมาประกอบอุปกรณ์ในการลักใช้ไฟฟ้าจนมาถูกตรวจจับได้ในครั้งนี้
ที่มา : matichon