ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นสัปดาห์แห่งการฟื้นตัวของเหรียญมีม โดยราคา Brett (BRETT) เหรียญมีมที่ใหญ่ที่สุดในเชน Base เพิ่มขึ้นถึง 30% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา
แต่ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งเชื่อว่า ม้ามืดที่แท้จริงอาจจะเป็น Flockerz (FLOCK) ซึ่งเป็นเหรียญมีมมาแรง ในรูปแบบ Vote-to-Earn ที่ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงพรีเซล
BRETT ข้ามแนวต้านครั้งสำคัญที่ 0.10 ดอลลาร์ นักเทรดคาดราคาพุ่งได้อีก
BRETT มีแนวโน้มเชิงขาขึ้นอย่างจริงจังในช่วงนี้ ซึ่งเหรียญคริปโตที่น่าจับตามองตัวนี้ ราคาได้พุ่งขึ้นไปถึง 0.115 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่การพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ในเดือนสิงหาคม
หลังจากราคา เพิ่มขึ้น 43% จากระดับต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว BRETT ก็ได้เติบโตแซง เหรียญมีม First Neiro บน Ethereum (NEIRO) ขึ้นมาเป็นอันดับ 8 สำหรับเหรียญมีมยอดนิยม
ด้วยปริมาณการเทรดแบบสปอตที่ 92 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่เมื่อวาน ต้องยอมรับว่าความตื่นเต้นนี้ไม่อาจปฏิเสธได้จริง ๆ
แต่ที่น่าตื่นเต้นกว่า คือการที่ BRETT สามารถทำลายแนวต้านที่ 0.10 ดอลลาร์ได้สำเร็จ
หลังจากเด้งกลับจากแนวต้านนี้ถึง 3 ครั้ง ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ในสุดสัปดาห์นี้จึงถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของผู้ถือเหรียญ แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร?
ขณะนี้ BRETT สามารถปิดเหนือระดับดังกล่าวบนกราฟรายวัน ตลาดขาขึ้นก็กำลังก้าวเข้ามา ทำให้คนเล็งเป้าหมายราคาถัดไปไว้ที่ 0.15 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นอีก 31% จากจุดนี้
ด้วยโมเมนตัมเชิงบวกที่ไม่มีทีท่าว่า จะชะลอตัว จึงมีโอกาสสูงที่เหรียญมีมในเชน Base ตัวนี้จะไปถึงเป้าหมายดังกล่าว
ราคาบิทคอยน์พุ่ง แต่ตลาดเหรียญมีมยังคงผันผวน
แม้ว่าเหรียญคริปโตอย่าง BRETT จะราคาพุ่งขึ้น แต่ตลาดเหรียญมีม โดยรวมกลับมีความผันผวน
มูลค่าตลาดโดยรวมของเหรียญมีมคริปโตอยู่ที่ 5.26 หมื่นล้าน โดยปริมาณการเทรดแบบสปอตรายวันเพิ่มขึ้น 15% เป็น 5.8 พันล้านดอลลาร์
แต่อย่าเพิ่งได้ใจไป เพราะจริง ๆ แล้วเหรียญมีมส่วนใหญ่กำลังเจอปัญหาหนักอยู่แม้แต่เหรียญมีมใหญ่ๆ ก็หนีไม่พ้น
ราคา Dogecoin (DOGE) ลดลง 2% , ราคา Shiba Inu (SHIB) ลดลง 3% และราคา Pepe (PEPE) ลดลงมากกว่า 8% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่ได้หมดหวังซะทีเดียว
เหรียญที่มีแนวโน้มเชิงบวกบางตัว เช่น DogWifHat (WIF) และ Mog Coin (MOG) ก็ยังคงรักษาตำแหน่งไปได้ ควบคู่กับ BRETT อยู่
แล้วความผันผวนนี้เกิดจากอะไร ?
คาดว่า ความไม่แน่นอนของราคาบิทคอยน์ (BTC) ในตอนนี้ กำลังส่งผลอย่างมากต่อตลาดเหรียญมีม
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ข้างหน้าอาจจะน่าจับตามองมากขึ้นสำหรับนักเทรด เนื่องจากเหรียญดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Michael van de Poppe ยังบอกอีกว่า ในไม่กี่วันข้างหน้าตลาดจะ “ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะเห็นการเคลื่อนไหวเชิงบวกในตลาดเหรียญมีมเช่นกัน
Flockerz เหรียญมีมมาแรง ด้วยโมเดล Vote-to-Earn ผู้เชี่ยวชาญคาดราคาอาจถึง 100x
นอกจาก BRETT แล้ว อีกหนึ่งเหรียญมีมตัวใหม่ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตได้แก่ Flockerz
ซึ่งหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ตื่นเต้นกับการเติบโตของเหรียญนี้ที่สุดก็คือ Jacob Bury
ในวิดีโอล่าสุดของช่อง 99Bitcoins ยูทูปเบอร์รายนี้ได้คาดการณ์ราคา FLOCK ไว้ว่า ราคาจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นถึง 100 เท่า หลังจากที่การพรีเซลสิ้นสุดลง ซึ่งอาจจะถึงขั้นที่ ราคาเหรียญ BRETT ตามไม่ทันเลยทีเดียว
แต่อะไรที่ทำให้เขาตื่นเต้นขนาดนี้ ? ประการแรกคือ Flockerz มอบรางวัลการ staking จำนวนมาก โดยมี APY อยู่ที่ประมาณ 2,500%
นอกจากนี้ Flockerz ยังมียูทิลิตี้อย่างจริงจัง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในระบบ DAO ที่ผู้ถือ FLOCK ทุกคน สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของโปรเจกต์ได้
อีกทั้งทีมงานของ Flockerz ยังมีแผนที่จะนำเสนอระบบ Vote-to-Earn ซึ่งจะทำให้ชุมชนได้รับรางวัลผ่านการมีส่วนร่วมในการลงคะแนน
โมเดล V2E นี้ จึงทำให้นักลงทุนพูดถึงโปรเจกต์นี้กันอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ presale ก็สามารถระดมทุนไปได้แล้วกว่า 690,000 ดอลลาร์ และไม่มีทีท่าจะชะลอตัว
Jacob ถึงขั้นเปรียบเทียบ Flockerz กับ Moo Deng (MOODENG) ซึ่งเป็นเหรียญมีมของ Solana ที่เพิ่งกลายเป็นไวรัลไปสด ๆ ร้อนๆ และสร้างผลตอบแทนอย่างมหาศาลแก่นักลงทุน
แล้ว FLOCK จะเป็นเหรียญมีมชั้นนำตัวต่อไปหรือไม่ ? คงต้องจับตามองกันต่อไป เพราะขณะนี้โปรเจกต์เพิ่งอยู่ในช่วงระยะเริ่มต้นเท่านั้น
สามารถติดตาม X (Twitter) ของโปรเจกต์ เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้าร่วมแล้วกว่า 2.5K
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์เพื่อเข้าร่วมการพรีเซลของ Flockerz
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์