เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางสยามบล็อกเชนเคยได้รายงานว่า นิตยสารชื่อดัง Forbes ได้ทำการเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับเหรียญคริปโตจำนวน 20 โปรเจกต์ที่มีมูลค่าตลาดที่สูงแต่กลับแทบไม่มีการใช้งานจริง โดยจัดหมวดหมู่ให้อยู่ในกลุ่ม “บล็อกเชนซอมบี้” หรือ “เหรียญซอมบี้”
ทว่า หลังจากที่ตลาดคริปโตได้ฟื้นกลับขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนซึ่งนำขบวนโดย Bitcoin ผลการรายงานของ Forbes ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกต้องอีกต่อไปแล้วหลังจากที่เหรียญที่พวกเขาเคยตีตราว่าเป็นซอมบี้กลับทำผลงานได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
ด้าน Wu Blockchain นักวิเคราะห์ชื่อดังก็ได้ชี้ให้เห็นว่าเกินกว่าครึ่งของเหรียญในลิสต์ดังกล่าวนั้นเมื่อเทียบกันปีต่อปีแล้วจะเห็นได้ว่าทำกำไรได้อย่างมหาศาล ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- XLM – มูลค่าเพิ่มขึ้น 294%
- XRP – มูลค่าเพิ่มขึ้น 317%
- ALGO – มูลค่าเพิ่มขึ้น 147%
- ADA – มูลค่าเพิ่มขึ้น 103%
- THETA – มูลค่าเพิ่มขึ้น 123%
- FTM – มูลค่าเพิ่มขึ้น 159%
- AR – มูลค่าเพิ่มขึ้น 173%
- LTC – มูลค่าเพิ่มขึ้น 71%
- BCH – มูลค่าเพิ่มขึ้น 104%
- XTZ – มูลค่าเพิ่มขึ้น 56%
- STX – มูลค่าเพิ่มขึ้น 50%
ส่วนเหรียญอื่น ๆ อีก 9 สกุลนั้นยังไม่สามารถทำผลงานได้โดดเด่น หรือมีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า 50% และมีเพียงแค่ 3 เหรียญเท่านั้นที่ให้ผลตอบแทนติดลบโดยในกรณีเลวร้ายที่สุดอย่าง MINA มีผลตอบแทนที่ติดลบถึง -38%
ทั้งนี้ทาง Forbes เคยวิจารณ์ว่า XRP โปรเจกต์ที่เคยมีมูลค่าตลาดสูงเป็นลำดับที่ 7 ของโลกคริปโตนั้นล้มเหลว และต้องพึ่งพารายได้จากการเทรดเพื่อเก็งกำไรมากกว่าการใช้งานเครือข่าย แต่ปัจจุบันมันก็ได้พิสูจน์แล้วว่า XRP นั้นไม่ใช่โปรเจกต์ที่ตายแล้วแต่อย่างใด ด้วยการทวงคืนลำดับที่ 3 ของโปรเจกต์คริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในตลาด มาได้สำเร็จ