<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รายงานเผย 20% ของ Gen Z และ Alpha เลือกคริปโตเป็นทางออกสำหรับวัยเกษียณ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รายงานล่าสุดจาก Bitget Research ได้ออกมาเปิดเผยว่า เยาวชนในเจเนอเรชัน Gen Z และ Alpha กำลังเริ่มมองการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ( Cryptocurrency) เป็นทางเลือกใหม่สำหรับการออมเงินเพื่อการเกษียณ โดยพบว่าราว 20% ของกลุ่มนี้เปิดรับแนวคิดที่จะใช้เงินบำนาญในรูปแบบคริปโตเคอร์เรนซี

จากผลสำรวจพบว่า 78% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความเชื่อมั่นใน “ทางเลือกการออมเงินเกษียณรูปแบบใหม่” มากกว่ากองทุนบำนาญแบบดั้งเดิม สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในวิธีการวางแผนการเงินของคนรุ่นใหม่ ซึ่งรายงานชี้ว่า หลายคนเริ่มตั้งคำถามกับระบบการเงินเดิม และมองหาโอกาสในเทคโนโลยี Blockchain รวมถึงการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance)

รายงานยังระบุว่า 40% ของคนในเจเนอเรชัน Gen Z และ Alpha ได้เริ่มลงทุนใน Cryptocurrency แล้ว ในเดือนมกราคมนี้ และมีแนวโน้มว่าการยอมรับคริปโตจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนสถาบันและรายย่อย เนื่องจากกฎระเบียบที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เติบโตต่อเนื่อง

ในขณะที่ Gracy Chen ซีอีโอของ Bitget ได้ออกมากล่าวว่า คนรุ่นใหม่ไม่พอใจกับระบบบำนาญที่ไร้ความยืดหยุ่นแบบเดิม และต้องการโซลูชันที่มอบความโปร่งใส ความยืดหยุ่น และการควบคุมได้มากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม การยอมรับคริปโตในวงกว้างยังคงเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ความผันผวนของราคา ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ และภัยคุกคามจากการโจมตีทางไซเบอร์

เพราะในปี 2024 ที่ผ่านมา การโจมตีจากแฮกเกอร์ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ากว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สูญหาย เพิ่มขึ้นกว่า 40% จากปีก่อน โดยช่องโหว่ด้านการควบคุมการเข้าถึง (Access Control Vulnerabilities) เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความเสียหาย คิดเป็นกว่า 81% ของมูลค่าที่ถูกโจมตีทั้งหมด 

อย่างไรก็ตาม Michael Pearl รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ของ Cyvers ชี้ว่า การตรวจสอบและจำลองธุรกรรมแบบ Offchain สามารถลดความเสี่ยงได้ถึง 99% โดยการยืนยันธุรกรรมในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและแยกออกจากเครือข่ายหลัก

รายงานนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญให้กับอุตสาหกรรมการเงินที่ต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของคนรุ่นใหม่ พร้อมกับสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีการเงินรูปแบบใหม่ในอนาคต

ที่มา: Cointelegraph