Matthew Hougan ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน (CIO) ของ Bitwise Asset Management เปิดเผยว่า Ethereum (ETH) กำลังเผชิญภาวะ “Demand Shock” หรือแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงจากกองทุนสปอต ETF และบริษัทที่เริ่มนำ ETH เข้าไปในคลังสินทรัพย์ของตน ปัจจัยนี้สร้างความตึงตัวในตลาดและผลักดันให้ราคา ETH มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Hougan ระบุว่า ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม กองทุน Spot Ether ETP และบริษัทต่าง ๆ ได้ซื้อ ETH รวมกว่า 2.83 ล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าปริมาณ ETH ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในช่วงเวลาเดียวกันถึง 32 เท่า สถานการณ์นี้สะท้อนแรงซื้อที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่อุปทานในระบบจะรองรับได้
ก่อนหน้านี้ Ethereum ไม่ได้รับแรงหนุนจากภาคสถาบันเหมือน Bitcoin เนื่องจากยังไม่มีบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ที่ถือ ETH เป็นทุนสำรอง แต่ภาพเริ่มเปลี่ยนในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เมื่อบริษัทอย่าง BitMine Immersion Technologies และ SharpLink Gaming เริ่มสะสม ETH จำนวนมาก พร้อมนำไปใช้ในการ Stake เพื่อสร้างผลตอบแทน ขณะเดียวกัน แรงซื้อจากกองทุน ETP ก็เร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ตลาดเผชิญภาวะขาดแคลนอุปทานอย่างแท้จริง
Hougan คาดการณ์ว่า หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป กองทุนและบริษัทต่าง ๆ อาจเข้าซื้อ ETH มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเท่ากับการดูดซับ ETH ประมาณ 5.33 ล้านเหรียญ ในขณะที่อุปทานใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดในช่วงเดียวกันมีเพียง 800,000 เหรียญ หมายความว่าความต้องการจะสูงกว่าอุปทานมากถึง 7 เท่า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาให้ปรับตัวขึ้นต่อไป
แม้ Hougan จะยอมรับว่า ETH แตกต่างจาก Bitcoin เนื่องจากไม่มีการจำกัดจำนวนเหรียญในระยะยาว แต่เขาย้ำว่าขณะนี้ปัจจัยที่กำหนดราคาหลักคือแรงซื้อจากสถาบันและกองทุนมากกว่าประเด็นทางเทคนิคอื่น ๆ
ภาพราคา ETH วันที่ 23 กรกฎาคม 2025 จาก coindesk
ณ เวลาที่รายงาน ETH เคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 3,658 ดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อย 0.69% ในรอบ 24 ชั่วโมง แต่ยังปรับตัวขึ้นกว่า 62.5% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ในรอบ 14 วัน ซึ่งสะท้อนว่าตลาดยังคงอยู่ในภาวะขาขึ้นที่แข็งแกร่งและอาจต่อเนื่องในระยะสั้น หากแรงซื้อจากกองทุนและบริษัทขนาดใหญ่ยังดำเนินต่อไป
ที่มา: x

