ราคา Bitcoin และ Ethereum ปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนกรกฎาคม ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในของคณะกรรมการ โดยมีกรรมการ 2 รายที่ไม่เห็นด้วยกับมติและต้องการให้ลดอัตราดอกเบี้ย
รายงานการประชุม (Fed Minutes) ระบุว่า “กรรมการสองสามท่านต้องการลดกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมครั้งนี้” โดยให้เหตุผลว่า “เมื่อไม่รวมผลกระทบจากกำแพงภาษี อัตราเงินเฟ้อได้เคลื่อนเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของคณะกรรมการแล้ว และกำแพงภาษีที่สูงขึ้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้ออย่างถาวร”


หลังการเปิดเผยรายงานดังกล่าว ราคา Bitcoin ได้พุ่งขึ้นมาซื้อขายล่าสุดที่ $114,253 เพิ่มขึ้น 0.6% ในชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่ Ethereum ซื้อขายอยู่ที่ $4,347 เพิ่มขึ้น 1.2% ในช่วงเวลาเดียวกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยถูกมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดคริปโต เนื่องจากจะช่วยปลดล็อกเงินทุนสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
โดยกรรมการสองรายที่ไม่เห็นด้วยกับมติคือ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ และ มิเชล โบว์แมน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายกำกับดูแล เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1993 ที่มีกรรมการไม่เห็นด้วยกับมติถึง 2 คน
โบว์แมนให้เหตุผลสนับสนุนการตัดสินใจของเธอโดยชี้ไปที่อัตราเงินเฟ้อที่ “เข้าใกล้เป้าหมายของคณะกรรมการมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งแต่เริ่มมีสัญญาณชะลอตัว และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในปีนี้ เธอยังแสดงความเห็นว่าการเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะเป็นการป้องกันความเสี่ยงเชิงรุกต่อภาวะเศรษฐกิจที่อาจอ่อนแอลง
แม้ว่านักลงทุนจะจับตาไปที่สุนทรพจน์ของ เจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ในการประชุมสุดยอดที่แจ็กสันโฮลในวันศุกร์นี้ แต่รายงานการประชุมครั้งนี้ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันมหาศาลจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ยมาโดยตลอด
ที่มา: decrypt

