ในปัจจุบันตลาดคริปโตมีนักลงทุน อยู่ 3 ประเภทได้แก่ Institutional หรือสถาบันการเงิน Retail Trader, Retail Investor แต่ว่าปัจจุบันกระดานเทรดคริปโตออกแบบมาเพื่อ Trader มากกว่า (กลุ่มคนที่มาจากตลาดหุ้น และ Forex มาก่อน) ทำให้กลุ่มบุคคล Retail Investor (กลุ่มบุคคลผู้สนใจในการลงทุนเพราะชอบแบบแผนของบริษัทนั่น ๆ)
ตั้งแต่ปลายปี 2017 การเทรดคริปโตเป็นอะไรที่ได้รับความความนิยมอย่างล้นหลาม ต่างคนต่างเข้ามาในตลาดนี้อย่างมากมาย แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุนในโลก Cryptocurrency เพราะว่ามีความกลัวในเรื่องของ Blockchain หรือ Cryptocurrency เช่นกัน
ในอีกแง่หนึ่ง มีผู้คนที่เข้ามาในโลกของคริปโตไม่มีความรู้ในด้าน Cryptocurrency หรือเรื่องการอ่านกราฟเลย หรือเมื่อเข้ามาในเว็บเทรดคริปโตที่มีแท่งอะไรก็ไม่รู้เขียว ๆ แดง ๆ เส้นกราฟอะไรมากมายแล้วก็อาจกดปิดเว็บไปก็มี
แล้วถ้ามีกระดานเทรดหรือเว็บเทรดที่เป็น Community ที่คอยสอนเรื่องการเทรดหรือเรื่องต่าง ๆ ตั้งแต่พื้นฐานของ Cryptocurrency หรือ Blockchain คืออะไร หรือแม้แต่การวิเคราะห์การลงทุนใน ICO มีอะไรบ้างจะดีไหม
Dacxi หรือกระดานเทรดคริปโตรูปแบบ Community ที่จะคอยสอนนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มเข้ามาในโลกของคริปโต ตั้งแต่ Blockchain คืออะไรหรือ Cryptocurrency คืออะไร รวมไปถึงการลงทุน ICO หรือการวิเคราะห์ ICO ต่าง ๆ อีกด้วย
Community Exchange
ต้องอธิบายก่อนว่าเว็บเทรดคริปโตส่วนใหญ่ที่เจอจะมีประมาณสองประเภท ก็คือเว็บเทรดคริปโตทั่วไปเช่น Bitkub, BX, Tdax, Cash2Coins และเว็บเทรดอื่น ๆ โดยเว็บพวกนี้สร้างมาเพื่อนักเทรดโดยเฉพาะ และ Exchange ที่เอาไว้ซื้อเหรียญเลยเช่น Coins.co.th ก็สะดวกสำหรับคนที่อยากซื้อเหรียญเพียงไม่กี่เหรียญเช่น Bitcoin
อ้างอิงจากเว็บไซต์ Dacxi คือ Community Exchange ซึ่ง Community Exchange จะไม่ใช่มีแต่กระดานทั่วไปเหมือนกับเว็บเทรดที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น เพราะทาง Dacxi จะมี Community ที่จะมาคอยดูแล พูดคุยให้คำปรึกษากันได้ โดยจะมี Tool ต่าง ๆ คอยดูแลนักเทรด ไม่ว่าจะเป็นกระดานไว้พูดคุย การรีวิว ICO ตัวที่น่าสนใจ เพื่อเป็นการตัดสินใจในการลงทุน
ทาง Dacxi เคลมว่าตลาดคริปโตนั้นถูกขับเคลื่อนด้วยนักลงทุนรายย่อย (Retail Investors) แต่ที่พวกเขาไม่เข้ามานั้นก็เพราะว่า พวกเขาไม่มีความมั่นใจ และไม่ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้นั่นเอง
Dacxi Exchange
หน้า Trading ของเว็บ Dacxi มีหน้าตาเรียบง่าย ดูสะอาดตา และมีกราฟที่รายนาที
ส่วนด้านล่างของกระดานเทรดคือกระเป๋าคริปโตของผู้ใช้งาน โดยในขณะที่เขียนบทความนี้ มีเหรียญให้เทรด 2 เหรียญซึ่งก็คือ BTC และ BCH แต่ถ้ากระเป๋าเก็บคริปโตจะมี ETH, LTC และ ETC โดยเหรียญ DAC จะมาเดือนสิงหาคมและ Ethereum Classic จะมาในอีกไม่ช้า
นอกจากนี้ทาง Dacxi ยังมีแอปฯ ทั้ง Android และ iOS อีกด้วย
แล้วถ้าจะถอนเงินออกมานั้นก็สามารถถอนสกุลเงินถึง 5 สกุลได้แก่ ยูโร, ปอน, Swiss Francs, ดอลลาร์, Poland Zloty และ Dacxi ยังมีพาร์ทเนอร์เจ้าใหญ่ที่จะคอยช่วยในเรื่องของสภาพคล่อง (Liquidity) ด้วย และสุดท้ายทาง Dacxi กำลังขอ License ที่มีนามว่า Gibraltar License ก็เพื่อที่จะมี DLT License ซึ่งขั้นตอนในการขอ License นั้นมีสามสเตจ และในขณะที่เขียนบทความนี้ทาง Dacxi ได้ผ่านสเตจแรกแล้ว
โดย Gibraltar Financial Services Commission นั้นจะเป็นองค์กรที่คอยอนุญาตว่าธุรกิจนั้น ๆ สามารถดำเนินธุรกิจด้านคริปโตได้หรือไม่ โดยจะคอยตรวจสอบธุรกิจเหล่านั้นว่าผ่านเกณต่าง ๆ ที่กำหนดหรือเปล่า
Dacxi Community
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ทาง Dacxi จะมี Community ที่เอาไว้ให้ข้อมูลกับนักลงทุนต่าง ๆ และสิ่งที่น่าสนใจก็คือ Dacxi Coinpedia จะเป็นชุมชนของเหรียญคริปโตต่าง ๆ
Groups
เมื่อดูบนเว็บไซต์ Dacxi อาจเป็น Exchange มีกลุ่มที่เอาไว้พูดคุยกันเป็นของตัวเอง โดยอาจแยกเป็นเรื่องที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหรียญ เรื่อง Bounty Program อะไรก็ได้ที่สนใจ ก็สร้างสร้างได้เลยทันที ในขณะที่เขียนบทความนี้ก็มีกลุ่มสำหรับคนไทยแล้ว โดยใช้ชื่อว่า Crypto ภาษาไทย (THAI)
Crypto VC
สำหรับผู้ที่ต้องการจะทำ ICO แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มได้อย่างไร หรือต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ทาง Dacxi ก็มีบริการที่จะคอยให้คำปรึกษาในการทำในด้านต่าง ๆ เช่นการทำการตลาด รวมถึงตรวจสอบโปรเจกต์ ICO ด้วยว่าผ่านเกณฑ์ด้วยหรือไม่
โดย Dacxi มี Crypto-VC เพื่อแสกน ICO โปรเจกต์ต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นของการสร้างโปรเจกต์นั้น ๆ และจะนำเสนอ ICO ตัวนั้นเข้า Community เพื่อให้คนที่อยู่ใน Community ตัดสินใจ โดยจะนำเสนอต่อนักลงทุนใน Community และเพิ่มโอกาสลงทุนในโปรเจกต์ที่มีคุณภาพให้กับนักลงทุนใน Community โดยโปรเจกต์ ICO ที่ผ่าน Crypto-VC เหรียญของโปรเจกต์ ICO เหล่านั้นจะถูกลิสต์บนกระดาน Dacxi
อ้างอิงบนเว็บไซต์ของ Dacxi ตัว Dacxi มีบริการสามตัว ก็คือ Dacxi Exchange, Dacxi Community, Crypto VC ซึ่งสามตัวนี้เป็น ecosystem ที่เชื่อมกัน และมีเหรียญ DAC Coin ใช้ผลักดัน Ecosystem นี้
นอกจากนี้ทาง Dacxi มี Crypto Regulation Forum จะเป็นแพลตฟอร์มที่มีการแชร์กฏหมายเกี่ยวกับคริปโตทั่วโลก เพื่อนำมาสนับสนุนคนใน Community นั่นเอง
Dacxi Coin
อ้างอิงจาก Whitepaper Dacxi Coin จะมาถูกใช้เป็น Rewards หรือค่าตอบแทนเช่นการชวนผู้คนเข้ามาใน Community หรือมีบทความดี ๆ จนมีคนถูกใจก็จะได้ค่าตอบแทนเช่นกัน
โดยเหรียญ DAC จะเป็นเหรียญที่ใช้ภายในกระดานเทรด นอกจากที่จะเอาไปใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมในการเทรดได้นั้น ยังสามารถเพิ่มมูลค่าและมีความมั่นคงกว่าเพราะว่ามีการนำไปใช้ใน Community อีกด้วย สุดท้ายมูลค่าของเหรียญก็จะเพิ่มขึ้นตาม Dacxi Ecosystem
นอกจากนี้สามารถนำไปใช้ลดค่าธรรมเนียมในการเทรดบน Exchange ของ Dacxi ได้อีกด้วย โดยใครถือเหรียญ DAC จำนวน 10,000 เหรียญจะสามารถลดค่าธรรมเนียมในการเทรดจำนวน 25 เปอร์เซ็นต์
บนเว็บไซต์ของ Dacxi กล่าวว่า ถ้าหากว่านักลงทุนถือเหรียญจำนวน 10,000 DAC Coin หรือมากกว่านั้น ก็จะสามารถเข้าสู่ Pre- ICO จากโปรเจกต์ที่ผ่านการคัดเลือกจาก Crypto – VC ของทาง Dacxi ได้เลย
ICO
อ้างอิงจากเว็บไซต์เหรียญ Dacxi Coin จะใช้เทคโนโลยี ERC-20 โดยจะมี Soft Cap ที่ 3,000,000 ดอลลาร์ และมี Hard Cap ที่ 10,000,000 ดอลลาร์
เปิดขายตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2018 โดยสามารถซื้อด้วยสกุล ETH, BTC, BCH, ดอลลาร์, ยูโร, ปอนด์ โดยในขณะที่เขียนบทความนี้ (Week 4) มีราคาที่ 1.4 Cent
ทาง Dacxi ยังระบุอีกว่า 70% ของรายได้จะเอาไปซื้อเหรียญกลับมา (Buy Back) แล้วทำลายทิ้งให้เหลือแค่ 50% เพื่อลด Supply แล้วราคาของเหรียญจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ระหว่างที่ทาง Dacxi กำลังเปิดขาย ICO อยู่นั้น ก็มีแคมเปญที่มีชื่อว่า “Confidence Campaign” โดยทาง Dacxi จะให้มูลค่าของ Bitcoin, ETH, BCH มีมูลค่าถึง 10,000 ดอลลาร์ 750 ดอลลาร์ และ 1,100 ดอลลาร์ ตามลำดับ เพราะทาง Dacxi เห็นว่าในอนาคตราคา Cryptocurrency จะกลับมาดีเหมือนเดิม เท่ากับว่าเหรียญ BTC, BCH, ETH ที่นักลงทุนถืออยู่จะมีมูลค่ามากกว่าปกติถึง 33 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง
Roadmap
อ้างอิงจากเว็บไซต์ในไตรมาสที่สามปี 2018 ทาง Dacxi จะขอ License Gibraltar และจะเปิดตัว Crypto-VC หรือ ICO ที่ทาง Dacxi เป็นผู้อนุมัตินั่นเอง
ทีม
ทีมของ Dacxi มีหลากหลาย และอยู่ในแวดวงโฆษณามาอย่างยาวนาน หรือ CTO ของ Dacxi ก็อยู่ในอุตสาหกรรมด้าน Blockchain หรือ COO ของ Dacxi นาย Tim Baxter นั้นมีประสบการณ์ในด้าน Financial Management และยังมีประสบการณ์เป็น Managing Director เป็นระยะเวลา 6 ปี
Advisor
ในส่วนของ Advisor นั้นก็ประกอบจากคนหลายสาขาเช่นนาย Andrew ที่เป็นเจ้าของบริษัท ซอฟต์แวร์ชื่อดังนาม UNA inc
สรุป
ธุรกิจเว็บเทรดคริปโตมีอยู่มากมาย โดยหลายเว็บที่เพิ่งเปิดมาในประเทศไทยหรือต่างชาติก็ต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน และ Dacxi Community ก็ถือว่าเป็นเว็บเทรดคริปโตรูปแบบใหม่ ที่คอยให้คำปรึกษา เสมือนเป็นโรงเรียนแลกเปลี่ยนความรู้ในการเทรดเรื่องคริปโตและ Blockchian แถมยังมีนักวิเคราะห์ที่คอยช่วยให้คำปรึกษาด้าน ICO และยังมีการรับประกันว่าจะได้ลิสต์เหรียญขึ้นบนเว็บเทรด Dacxi อีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์หลักของ Dacxi วีดีโอแนะนำ Dacxi และสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Telegram ของบริษัท
หมายเหตุ: การลงทุนในตัวเหรียญ Cryptocurrency มีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียในทุกกรณี บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น