เรากำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของเดือนตุลาคม ซึ่งในทางสถิติถือเป็น “เดือนมหัศจรรย์” ที่ Bitcoin มักทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องจนสิ้นสุดไตรมาสสุดท้ายของปี แต่ทว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมากลับถูกสั่นคลอนอย่างหนัก
ในขณะนี้ เหตุการณ์สำคัญระดับโลกที่เปรียบเสมือน “ระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจ” ได้มากองรวมกันอยู่ในสัปดาห์นี้ทั้งหมด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินทิศทางของตลาดคริปโตในอีกสองเดือนที่เหลือของปีนี้ (พ.ย.-ธ.ค.) นักลงทุนจึงจำเป็นต้องจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม: พายุเศรษฐกิจมหภาค
ผลการประชุม FOMC และอัตราดอกเบี้ย
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะออกแถลงผลการประชุม FOMC และประกาศอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดส่วนใหญ่ คาดว่าจะมีการปรับลดลง หากเป็นไปตามคาด จะเป็นสัญญาณบวกต่อ Bitcoin และสินทรัพย์เสี่ยง แต่หาก Fed มีท่าทีเข้มงวดกว่าที่คาดการณ์ (Hawkish) ตลาดอาจเกิดแรงเทขายทันที
การประชุมระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ และ สี จิ้นผิง
ถัดมาจะเป็นการพบปะของสองผู้นำโลกระหว่างการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย–แปซิฟิก (เอเปค) ที่เกาหลีใต้ โดยถ้าหากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าหรือการเมืองที่สำคัญได้ จะช่วยคลี่คลายความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และอาจทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกกลับมาคึกคักอย่างมีนัยสำคัญ
รายงานดัชนี GDP ของสหรัฐฯ ไตรมาส 3
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ถึงแม้จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อราคาคริปโตในทันที แต่ตัวเลข GDP ที่แข็งแกร่ง/อ่อนแอ มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการแข็งค่า/อ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญต่อราคา Bitcoin
วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม: วันตัดสินใจและแรงดึงดูดราคา
รายงานดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
ดัชนี PCE คือเครื่องมือวัด “อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภค” ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ใช้เป็น ตัวชี้วัดหลัก ในการตัดสินใจนโยบายการเงินครั้งถัดไป หากตัวเลข PCE สูงกว่าคาด (บ่งชี้เงินเฟ้อยังคงอยู่) อาจทำให้นักลงทุนกังวลต่อการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต
สัญญาออปชันหมดอายุ (สิ้นเดือน)
ในวันศุกร์สุดท้ายของเดือน สัญญาออปชันของ Bitcoin จะหมดอายุลง ซึ่งจำนวนสัญญาและมูลค่าโดยรวมจะสูงกว่าปกติอย่างมาก ในขณะที่ “จุดเจ็บปวดสูงสุด” (Max Pain Point) ของสัญญาออปชัน จะเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ราคา Bitcoin เคลื่อนเข้าหาในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้ราคาเกิดความผันผวนสูงมากก่อนตลาดจะเข้าสู่เดือนใหม่
สรุปแล้ว สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ที่มีความผันผวนสูงและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากทุกด้าน นักลงทุนจึงควรใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจ และบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวดจนกว่าสถานการณ์ได้คลี่คลาย

