<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นพุ่งสูงสุดในรอบ 17 ปี ! สะเทือนตลาด Carry Trade–คริปโตสั่นคลอนหนัก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาดการเงินทั่วโลกกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี พุ่งแตะ 1.86% ในวันที่ 1 ธ.ค. 2025 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2008 หรือในรอบกว่า 17 ปี การขยับขึ้นของยีลด์ครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างหนัก เนื่องจากอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในตลาดคริปโตเมื่อวานนี้ และทำให้กลไก Yen Carry Tradeเริ่มสั่นคลอน

การดีดตัวมาที่ระดับ 1.86% อาจดูไม่สูงเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ แต่สำหรับญี่ปุ่นที่ตรึงดอกเบี้ยต่ำมานาน นี่ถือเป็นสัญญาณเปลี่ยนผ่านเชิงนโยบายครั้งใหญ่ ทั้งบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นเกือบสองเท่าในรอบ 12 เดือน และพันธบัตรอายุ 2 ปีที่ทะยานขึ้นแตะ 1% เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ต่างสะท้อนว่าต้นทุนการกู้ยืมในญี่ปุ่นกำลังปรับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

แรงสะเทือนครั้งนี้ กระทบโดยตรงต่อโครงสร้าง Carry Trade ที่นักลงทุนสถาบันใช้กู้เงินเยนราคาถูกเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ตั้งแต่หุ้นเทค ไปจนถึงคริปโตเคอร์เรนซี การที่ต้นทุนเงินเยนสูงขึ้นทำให้นักลงทุนต้องเร่งปิดสถานะและคืนหนี้ ส่งผลให้เกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงในวงกว้าง ซึ่งเป็นลักษณะของการปิดสถานะการทำ Carry Trade ซึ่งจะส่งผลให้ดูดสภาพคล่องออกจากตลาดอย่างรุนแรง

สถานการณ์ยิ่งทวีความกดดันเมื่อญี่ปุ่นเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุดมูลค่ากว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ หากผลตอบแทนในญี่ปุ่นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เงินทุนที่เคยไหลออกไปลงทุนต่างประเทศอาจถูกบังคับให้ไหลกลับ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถของสหรัฐฯ ในการออกพันธบัตรใหม่เพื่อจัดการภาระหนี้

ราคาพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2008 ที่มา: MarketWatch

ด้านตลาดคริปโต ความปั่นป่วนยิ่งเห็นได้ชัดกว่า เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง สูงที่สุด นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า การเคลื่อนของสภาพคล่องเพียงเล็กน้อยในระบบการเงินโลก ก็เพียงพอจะทำให้ราคา Bitcoin และ Altcoins แกว่งตัวแรงทันที การปรับพอร์ตของนักลงทุนที่ต้องคืนหนี้เยน ทำให้เกิดแรงเทขายวงกว้างเหมือนที่เห็นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะนี้ตลาดกำลังจับตาการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด รวมถึงสัญญาณด้านนโยบายการเงินในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยญี่ปุ่นจะกำหนดกระแสเงินโลก และอาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อความผันผวนของตลาดคริปโตในระยะสั้น

ที่มา:cointelegraph