ในตอนนี้ ผู้คนทั้งในวงการและนอกวงการคริปโตคงจะปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ที่จะไม่พูดถึง Libra หรือเหรียญ Cryptocurrency ที่ Facebook กำลังจะสร้างขึ้น ถึงแม้มันจะถูกเคลมว่ามีประโยชน์มากมาย แต่ในทางกลับกัน ผู้ออกกฎหมายกลับไม่คิดแบบนั้น
Libra เป็น Stablecoin ที่ Facebook กำลังจะสร้างขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาได้ปล่อย Whitepaper ออกมาให้ผู้ชมรับชมกันว่า มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งแน่นอนว่า การที่เจ้าใหญ่อย่าง Facebook กระโดดลงมาเล่นในเทรนด์ Cryptocurrency ที่ปัจจุบันยังมีกฎหมายไม่ลงตัวนั้น ทำให้เกิดความวุ่นวายกันในหมู่องค์กรและผู้ออกกฎหมายอย่างแน่นอน เนื่องจาก Facebook เองก็มีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนักในมุมมองของพวกเขา และ Facebook เองยังมีฐานผู้ใช้งานหลายล้านคน ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมจะมีผู้คนออกมาแสดงความกังวลในเรื่องนี้กันมาก
Libra จะเป็นภัยคุกคาม
ล่าสุด อ้างอิงจาก TOKYO ได้มีการรายงานว่า นาย Hiromi Yamaoka อดีตผู้บริหารของธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่น ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า เขาเชื่อว่า หาก Libra ได้รับความนิยมและใช้งานอย่างแพร่หลายนั้น มันจะส่งผลให้นโยบายทางการเงินมีประสิทธิภาพน้อยลง:
“ถ้า Libra ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากกว่าค่าเงินของประเทศนั้น ๆ มันอาจจะบ่อนทำลายนโยบายทางการเงินของประเทศนั้น ๆ เป็นอย่างมาก”
ในความเห็นของเขา สาเหตุที่เขาเชื่อแบบนั้นก็มาจากการที่ Libra สามารถทำให้เงินไหลออกนอกประเทศต่าง ๆ ที่ผู้คนไม่มีความเชื่อมั่นใจค่าเงินนั้นได้ แต่ในทางกลับกัน ประเทศที่ผู้คนยังเชื่อมั่นใจค่าเงินอยู่ ก็จะไม่มีปัญหาอะไรกับมัน
ไม่ใช่ว่าการพูดของนาย Yamoka นั้นเป็นการนั่งเทียนแล้วถึงออกมาพูด แต่ก่อนหน้านี้ เขาเองก็เคยเห็นผลวิจัยของธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่นมาแล้วเกี่ยวกับค่าเงินดิจิทัลสกุลต่าง ๆ การที่ Libra นั้นถูกออกแบบมาให้มีการค้ำประกันด้วยสินทรัพย์จริง ๆ อย่างค่าเงินของประเทศต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดและอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงต้องการให้มีการร่วมมือกันในระดับโลกระหว่างผู้ออกนโยบายในประเทศต่าง ๆ เพื่อที่จะดูแลเรื่องการปล่อยให้เงินไหลออกนอกประเทศอย่างเหมาะสม:
“การมีความไม่เสถียรในกฎหมายของประเทศต่าง ๆ ทำให้เกิดช่องโหว่ ซึ่งจะทำให้กฎต่าง ๆ นั้นมีประสิทธิผลน้อยลง”
แต่เดิม Facebook ได้ประกาศว่า Libra นั้นจะเปิดตัวพร้อมใช้งานในช่วงปี 2020 แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ออกกฎหมายจำนวนมากก็ได้มีท่าทีต่อต้าน เนื่องจากเห็นว่า หลาย ๆ ปัจจัยยังไม่พร้อมสำหรับ Libra เช่นประเด็นของความเป็นส่วนตัว, ความมั่นคง, ความเสี่ยงของระบบ และอื่น ๆ อีกมากมาย จนทำให้ Facebook ออกมากล่าวอีกครั้งว่า อาจไม่ได้เปิดตัวในปี 2020 แล้ว และจะรอจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ออกกฎหมายก่อน ถึงจะเปิดตัว Libra จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงคำกล่าวของ Facebook เท่านั้น ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จะทำอย่างไรต่อไป แต่ที่แน่ ๆ คือตอนนี้ บริษัทเจ้าใหญ่มากมายได้เล็งเห็นแล้วว่า Cryptocurrency และ Blockchain นั้นสามารถเข้ามามีบทบาทให้กับผู้ใช้งานของพวกเขาขนาดไหน
ก่อนหน้านี้ Walmart เองก็เพิ่งยื่นสิทธิบัตรสำหรับการสร้างเหรียญ Walmart Coin ไป โดยมันเคลมว่าจะมีประโยชน์มากมาย เช่นให้กู้เงินเร่งด่วน, ใช้จ่ายแบบไร้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการตัดสินใจนี้ ทำไปเพื่อให้นำหน้า Amazon คู่แข่งของพวกเขานั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น