เมื่อวานซืนที่ผ่านมานาย Jamie Dimon หรือ CEO ของ JPMorgan Chase ได้ออกมากล่าวสิ่งที่ทำให้วงการผู้ใช้ cryptocurrency ต้องตะลึง โดยเขากล่าวว่า Bitcoin นั้นคือการหลอกลวง และมันจะตายไปในท้ายสุด ซึ่งภายหลังนาย Max Keiser หรือผู้สื่อข่าวของ RT ก็ได้ออกมาอธิบายว่าทำไมฟองสบู่ที่แท้จริงนั้นจะเป็นธนาคาร และไม่ใช่ cryptocurrency
“ทั้ง JPMorgan รวมถึงวงการการเงินอื่นๆในปัจจุบันได้อยู่ภายใต้การปฏิบัติที่ทุจริตของ Federal Reserve ที่มีนโยบาย Financial repression เคลื่อนย้ายเม็ดเงินราวๆหลายพันล้านดอลลาร์จากบัญชีออมทรัพย์ของคนทั่วๆไป, เงินบำนาญ และของคนงานไปให้ JPMorgan และกระเป๋าเงินของ Jamie Dimon ซึ่งเงินค่าตอบแทนของนาย Jamie นั้นมีความเกี่ยวเนื่องกับการปั่นหุ้น JPMorgan และ options ซึ่งต้องขอบคุณความคอรัปชั่นและการทุจริตที่แสนอบอุ่นของ FED ล้วนๆ”
กล่าวโดยนาย Max Keiser
Financial repression คือวิธีการในอดีต ที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ ใช้ในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะ โดยทำได้ด้วยวิธี
- การกดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นจนทำให้ดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบ
- การบังคับให้สถาบันการเงินในประเทศ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญหรือ บริษัทประกันให้ซื้อและยังคงถือครองตราสารหนี้ของภาครัฐ
- การกำกับดูแลการไหลเข้าออกของเงินทุน
- การเข้าไปครอบงำกิจการภาคธนาคาร
การออกมาทำแบบนี้ของ FED ภายหลังผลประโยชน์นั้นถูกย้ายไปจากผู้กู้สู่ผู้ยืม ซึ่งทำให้หุ้นของ JPMorgan นั้นเพิ่มขึ้นมาถึง 260% ในปี 2012
โดยอ้างอิงจากนาย Keiser นั้น มันเป็นเรื่องผิดที่จะกล่าวว่า Bitcoin นั้นเป็นฟองสบู่หรือการหลอกลวง
“เงินดอลลาร์, ตลาดพันธบัตร, และตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้นกำลังเป็นฟองสบู่ ส่วน Bitcoin และทองคำนั้นเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ฟองสบู่ การที่ออกมาบอกว่า Bitcoin เป็นการหลอกลวงนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการออกมาบอกว่าทองคำคือของหลอกลวงเช่นกัน บางคนอาจจะบอกอย่างนี้ แต่ผมคิดว่าคงไม่มีคนมีเหตุมีผลคนไหนเห็นด้วยหรอก” เขากล่าว
“เมื่อสกุลเงินทั่วไปนั้นกำลังเป็นฟองสบู่, ฟองสบู่พันธบัตรและหุ้นแตกออก เมื่อนั้นเม็ดเงินก็จะไหลเข้ามาในตลาด Bitcoin, ทองคำ และเงิน ซึ่งในตอนนั้นเมื่อลูกค้าของเขาเริ่มที่จะหนีออกจาก JPMorgan เพื่อหันไปซบ Bitcoin นั้น นาย Jamie จะถูกบังคับให้ยอมจำนน หรือถูกแทนที่ด้วยคนอื่น” กล่าวเพิ่มโดยนาย Max Keiser
McAfee to JPMorgan CEO Dimon: it costs $1000 to mine 1 bitcoin. What does it cost to print US dollar? which one is the fraud?#bitcoin pic.twitter.com/SyWzaEOzhS
— Joseph Young (@iamjosephyoung) September 14, 2017
แปล: McAfee ฝากถาม CEO ของ JPMorgan หรือนาย Dimon ว่าต้นทุนการขุด 1 Bitcoin อยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์ แล้วต้นทุนที่ใช้พิมพ์เงินดอลลาร์ล่ะ ใช้เท่าไร? อันนี้คือของหลอกลวง?
นาย Keiser ยังได้อธิบายถึงสาเหตุที่ธนาคารเกลียด cryptocurrency ด้วย โดยกล่าวว่า
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
“Bitcoin ทำให้ธนาคาร หรือพวกตัวกลางที่ชอบกินค่าธรรมเนียมแพงๆ และปลิงที่ไม่สามารถยอมรับได้ในสังคมกลายเป็นพวกล้าสมัยไปเลย ซึ่งธนาคารพวกนี้กลัว Bitcoin ขึ้นสมองเพราะคิดว่า Bitcoin จะมาแย่งงานพวกเขา” เขากล่าว
JPMorgan นั้นเป็นธนาคารที่รู้จักกันดีว่าละเมิดกฎหมายการด้านการธนาคารหลายครั้งมาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว ซึ่งพวกเขาได้ทำการจ่ายค่าปรับไปรวมทั้งหมดแล้วกว่า 28.7 พันล้านดอลลาร์
My memory is failing, was it Bitcoin or was it JP Morgan that was bailed out by the government? https://t.co/DHqFzr5UJN
— Erik Voorhees (@ErikVoorhees) September 12, 2017
แปล: สงสัยผมจะความจำไม่ค่อยดี ตกลงมันเป็น Bitcoin หรือ JPMorgan กันแน่ที่ถูกอุ้มโดยรัฐบาลกันแน่น้า?
ตัวเลขดังกล่าวนี้ได้รวมถึงจำนวนเงินค่าปรับ 13 พันล้านดอลลาร์เมื่อปี 2013 เมื่อธนาคารมีการกล่าวโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับการจำนองที่ขายให้กับนักลงทุนในช่วงก่อนวิกฤติทางการเงินปี 2008
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น