ผู้บริหารระดับสูงของ JP Morgan ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ Bitcoin โดยออกมาอธิบายมุมมองของเขาเกี่ยวกับความนิยมของราชาเหรียญ cryptocurrency ตัวนี้
โดยในรายการโทรทัศน์ Bloomberg Surveillance ที่ได้ออกอากาศไปเมื่อวานนี้ จัดรายการโดยนาย Tom Keene หรือบรรณาธิการแห่ง Bloomberg News ซึ่ง Bitcoin นั้นได้ไปอยู่ในช่วง ‘Single Best Chart’ ของรายการ โดยนาย Keene ได้แสดงให้เห็นถึงไฮไลท์ของของกราฟราคา Bitcoin ที่มีราคามาแตะจุดสูงสุดเมื่อไม่นานมานี้ ในขณะที่ยังวงกลมไฮไลท์ของเมื่อปี 2014 ให้เห็นไว้ตามรูปด้านล่าง
ซึ่งในปี 2014 นั้นทาง JP Morgan ได้ตีพิมพ์เอกสาร 8 หน้าที่มีเนื้อหาวิจารณ์ Bitcoin เขียนโดยนาย John Normand ผู้ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศ (FX) ในตอนนั้น โดยหัวเรื่องของเอกสารมีชื่อว่า “ความอหังการของ Bitcoin” โดยนาย Normand เถียงว่า Bitcoin นั้น “ด้อยกว่า” สกุลเงินหลักธรรมดามาก และมันทำหน้าที่เป็นเงินสำหรับแลกเปลี่ยนได้ย่ำแย่กว่าสกุลเงินหลักเสียอีก
โดยในช่วงสามปีให้หลัง นาย Normad ได้ถูกถามคำถามเกี่ยวกับว่าเกิดอะไรขึ้นกับราคาของ Bitcoin ว่าทำไมไม่เห็นเหมือนที่คุยกันไว้ในรายงานเลยล่ะ เนื่องจากว่าตอนนั้นราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 668 ดอลลาร์เท่านั้น ทว่าในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 4299.42 ดอลลาร์ หลังจากไปแตะจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 5,000 ดอลลาร์เมื่อเดือนกันยายน 2017 ที่ผ่านมา
นาย Normand ที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าของตลาด FX และ commodity ที่ JP Morgan กล่าวว่า
“สงสัยสิ่งที่ทำให้มันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้คงเป็นความนิยมของมันมั้ง ความเห็นของผมที่เคยเขียนไว้เมื่อปี 2014 ก็คือมันเป็นแค่ของเล่นไร้สาระ (retail novelty)”
ที่น่าสนใจคือนาย Keene ได้มีการชี้ให้เห็นถึงการที่นาย Normand ใช้คำว่า ‘ของเล่นไร้สาระ’ นั้นมันก็ไม่ต่างจากการบอกว่ามันเป็น ‘แชรลูกโซ่’ แบบซอฟต์ลงมา “ผมไม่คิดว่ามันเป็นแชร์ลูกโซ่” นาย Keene กล่าว โดยเสริมว่าสาเหตุที่ Bitcoin ยังมีตัวตนได้มาอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะ “แนวคิดที่ดี” ที่หนุนหลังมันมาตั้งแต่ต้น
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
ซึ่งผู้บริหารของ JP Morgan คนดังกล่าวก็ได้ตอบกลับว่า
“มันก็มีผู้คนที่ใช้ [bitcoin] ในด้านที่ดีๆ แล้วก็คนที่ใช้ในด้านที่ไม่ดีเช่นกัน ถ้าจะเรียกมันอีกแง่มุมหนึ่ง ผมว่ามันน่าจะไม่ต่างกับแต้มแอร์ไมล์เครื่องบินเพราะว่ามันมีหลายๆอย่างที่สามารถใช้เจ้าสิ่งนี้ซื้อได้ โดยเฉพาะสินค้าและบริการ เหมือนๆกับที่แต้มสะสมแอร์ไมล์ใช้แลกได้ ซึ่งสกุลเงินนี้ก็ทำได้เช่นกัน ความต่างคือมันก็แค่มีการเพิ่มมิติของการรองรับโดยกลุ่มต่างๆในหลายๆประเทศทั่วโลก และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำไมมันถึงเป็นที่นิยม”
นาย Normand ขยายความถึงสาเหตุที่เขาเรียกมันว่าเป็นของเล่นไร้สาระ โดยบอกว่า “มันไม่ใช่อะไรบางอย่างลูกค้าองค์กรหรือบริษัทควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว มันมีเหตุผลหลายๆประการในนี้ ผมก็แค่คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นที่นิยมได้ในขนาดนี้เพราะว่ามันเป็นสกุลเงินที่ไม่มีรัฐบาลมาแบคไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นในการเป็นสกุลเงินที่แท้จริง ซึ่งมันมักจะมีพวกร้านค้า, พวกเสรีนิยม, หรือแม้แต่พวกอาชญากรที่ต้องการจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับของแบบนี้”
ความเห็นของนาย Normand มีขึ้นหลังจากที่ CEO ของ JP Morgan หรือ Jamie Dimon เคยออกมาประกาศโจมตี Bitcoin ในที่สาธารณะว่าเป็นของหลอกลวง ก่อนที่จะออกมาพูดอีกรอบว่ามันนั้นไม่มีค่าอะไรเลย
ปัจจุบัน Bitcoin นั้นถูกซื้อขายที่ใกล้ระดับ 4,300 ดอลลาร์ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มมาถึง 430% ตั้งแต่ช่วงต้นปีมา
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น