ดูเหมือนว่าตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคริปโตจะเป็นเหมือนกับรถไฟเหาะทั้งในแง่ของราคาและความเชื่อมั่น
โดยเฉพาะความเชื่อมั่นนั้น ดูเหมือนว่าชุมชนคริปโตจะได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงจากคนที่มีอิทธิพลและร่ำรวยที่สุดในโลก แน่นอนว่าเขาคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก CEO ของ Tesla นาย Elon Musk
จุดเปลี่ยนที่สำคัญ
ในวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา Tesla ได้ออกมาประกาศว่า บริษัทได้หยุดรับชำระเงินเป็น bitcoin แล้ว โดยอ้างถึงความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและ Musk ก็ให้การสนับสนุนอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเร็วพอที่ชุมชน Bitcoin จะตอบสนองเขาในแง่ลบ ผู้คนเริ่มเรียก Musk ว่าเป็น คนหน้าซื่อใจคดในการสร้างยานพาหนะที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแถมยังใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อส่งจรวดของเขาไปยังนอกโลกอีกด้วย
จุดเปลี่ยนที่สำคัญนั้น เกิดขึ้นในวันที่ 16 พฤษภาคมเมื่อ Musk ออกมาให้ความเห็นเชิงเปรียบเทียบระหว่าง Bitcoin และ Dogecoin ว่า หาก DOGE ทำการ “เร่ง Block time 10x เพิ่มขนาดบล็อกขึ้น 10x และลดค่าธรรมเนียมลง 100x มันก็จะชนะ Bitcoin ใส ๆ”
นอกจากนี้ Musk ยังกล่าวด้วยว่า “Bitcoin นั้นมีความเป็น Centralize สูง เนื่องจากมันถูกควบคุมโดยบริษัทเหมืองขุดขนาดใหญ่อยู่เบื้องหลัง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ทำให้ผู้คนในชุมชนคริปโตเริ่มแสดงความไม่พอใจต่อ Musk และออกมากล่าวหาเขาเป็นพวกโกหก หลอกลวง และเกรียนตัวพ่อ
อย่างไรก็ตาม Musk ได้ออกมาตอบสนองในภายหลังว่าบริษัท Tesla ของเขายังไม่ได้เทขาย Bitcoin ในตอนนี้ แต่หลายคนก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เชื่อในคำพูดของเขาอยู่ดี
มองไปที่ปัญหา
Bitcoin ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา Elon Musk อีกต่อไป ซึ่งจริง ๆ แล้ว Bitcoin มีมหาเศรษฐีรายอื่นที่คอยให้การสนับสนุนและอยู่ที่นี่มานาน ก่อนที่ Musk จะเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเปิดเผยและอยู่มานานก่อนที่ Tesla จะยอมรับการชำระเงินด้วย Bitcoin
นาย Michael Saylor ได้เริ่มให้การสนับสนุน Bitcoin ก่อนใครและ MicroStrategy ได้ซื้อมันมากกว่า 100,000 BTC
นาย Paul Tudor Jones เริ่มสนใจใน Bitcoin และเริ่มลงทุนกับมัน ก่อนที่นาย Anthony Scaramucci จะให้ความสำคัญกับ Bitcoin
Bitcoin ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการ Hard Forks และฉันทามติของตลาดนั้นมีความชัดเจนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แม้ว่าส่วนแบ่งของ bitcoin จะลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่มันก็ยังมีส่วนแบ่งมากกว่า 40% ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด
เรากำลังอยู่ในตลาดกระทิง ซึ่งในตลาดกระทิงผู้คนมักจะลืมเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานและยึดติดอยู่กับราคา สิ่งนี้นำไปสู่การยกย่องบุคคลที่ไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อผลักดัน bitcoin ไปข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนอย่าง Elon musk