<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ขั้นตอนแรกของการ Hard Fork ตัวอัพเดต Metropolis ของ Ethereum จะมีขึ้นพรุ่งนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ทาง Ethereum Foundation และรวมถึงนักพัฒนาคนอื่นๆใน community ของ Ethereumกำลังเตรียมติดตั้งตัว hard fork ของ Metropolis ตัวแรกในวันพรุ่งนี้

โดยอ้างอิงจากนาย Jordan Daniell จาก ETHNews นั้น ตัว hard fork ของ Metropolis จะถูกวางแผนให้เกิดขึ้นทั้งหมดสองช่วง ช่วงแรกนั้นจะมีชื่อว่า Byzantine ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ถูกสร้างออกมาขึ้นเพื่อลดโอกาสของผู้ไม่หวังดีในเครือข่าย Ethereum ลง โดยการ hard fork ดังกล่าวนั้นจะมีขึ้นที่ช่วงเวลาบล็อกหมายเลข 1,700,000ของระบบ Ethereum Test Net (ระบบ Blockchain สำหรับทดสอบของ ETH) ซึ่งจะตรงกับวันที่ 18 กันยายนหรือวันพรุ่งนี้พอดี

ก่อนหน้านี้นาย Vitalik Buterin หรือผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้ออกมาเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการพัฒนาระบบเครือข่าย และรวมถึงการทำ hard fork ในการที่จะช่วยนำพามาซึ่งความประหยัดพลังงาน, ความปลอดภัย และความลื่นไหลของระบบ infrastructure โดยรวมสำหรับ decentralized applications (dapps) และนักพัฒนา

ต้องมีระบบโพรโตคอลที่ดีกว่านี้

เมื่อประมาณมากกว่า 12 เดือนที่ผ่านมา มีบริษัทระดับพันล้านหลายๆแห่งรวมถึงบริษัทขนาดกลาง และนักพัฒนา dapp นั้นได้มาเข้าร่วมองค์กร Enterprise Ethereum Alliance ซึ่งชื่อที่ทุกๆคนคงจะคุ้นเคยกันดีก็คงเป็น JPMorgan, Microsoft, Intel และ BBCA ที่กำลังพัฒนาแอพของพวกเขาบนระบบโพรโตคอลของ Ethereum ซึ่งพวกเขานั้นต่างก็มองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีดังกล่าวในการนำมาต่อยอดโปรเจคต่างๆของตัวเอง

ทว่าในการที่เครือข่ายของ Ethereum จะสามารถที่จะรองรับ dapp ขนาดใหญ่ในอนาคตที่จะมีออกมาเรื่อยๆได้นั้น (โดยเฉพาะ dapp ที่ถูกพัฒนาออกมาสำหรับแพลทฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับการเงิน) ทางนักพัฒนาจำเป็นต้องมีระบบโพรโตคอลที่ดีกว่านี้

นาย Vitalik เคยออกมากล่าวอธิบายไว้ว่า

“แอพมันมีอยู่แล้ว ลองดูโปรแกรมด้านอาหารของ UN, การยืนยันตัวตน, ระบบห่วงโซ่อหาร, ระบบทำนายตลาดหุ้น, Reddit กับ Twitter แบบ decentralized, mesh nets แต่ระบบทั้งหมดนี้ถูกยืดระยะเวลาออกไปเพราะมันไม่มีการ scaling ของเครือข่าย โดยส่วนตัวผมต้องยกเลิกการโปรโมทโปรเจคตัวเองไปเพราะตอนนี้ผมมองว่าเครือข่ายมันยังมีอาการคอขวดอยู่”

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

ตัว Byzantine นั้นจะถูกทดสอบบน testnet ของ Ethereum ในสัปดาห์หน้านี้ ซึ่งหากทำสำเร็จนั้น จะทำให้ Ethereum Foundation และนักพัฒนาสามารถเตรียมตัวขั้นตอนที่สองของการ hard fork ของ Metropolis ต่อได้ทันที ซึ่งก็คือตัว Constantinople และเมื่อการ hard fork ทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์แล้วนั้น มันจะทำให้ dapp ต่างๆที่นาย Vitalik กล่าวไว้ข้างต้นสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นบนเครือข่ายโพรโตคอลของ Ethereum

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น