<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“Bitcoin เตรียมขึ้นแท่นสกุลเงินสำรองใหม่ของโลก แทนที่สกุลเงินดอลลาร์” กล่าวโดยนาย Max Keiser

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สำนักข่าวของสหรัฐฯรวมทั้งผู้สนับสนุนคริปโตต่างทำนายว่าแพลตฟอร์มซื้อขายทางการเงินที่เป็นช่องทางใหม่นี้นั้นจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอีกในปี 2019 โดยได้รวมถึง Bitcoin ด้วย

ในหลายปีที่ผ่านมานี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯอยู่ในฐานะสกุลเงินสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์และตลาดต่างๆทั่วโลกมาตลอด ซึ่งเป็นผลพวงมาจากความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในตลาดโลก อย่างไรก็ตามได้มีรายงานวิจัยซึ่งเชื่อว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯกำลังจะสูญเสียชื่อเสียงและฐานะดังกล่าวในไม่ช้า และในอีกไม่นานสกุลเงินที่ปราศจากการควบคุมโดยส่วนกลางจะเข้ามาแทนที่มันในที่สุด

หนึ่งในปัจจัยที่สนับสนุนความคิดเห็นดังกล่าวคือการที่ความสมดุลของอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างพื้นที่บนโลกนั้นได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในเรื่องการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการระหว่างประเทศในตลาดโลก

การคาดคะเนของ Max Keiser สำหรับปี 2019 นี้

นักวิเคราะห์หลายรายรวมถึงนักลงทุนคริปโตรายใหญ่ได้มองว่าปี 2019 นี้เป็นปีที่จะทำให้ตลาดตื่นตัวจากการพุ่งขึ้นของราคาได้อีกครั้ง โดยหนึ่งในคนที่พูดเรื่องเหล่านี้คือผู้เผยแพร่ข่าวรายหนึ่งของสหรัฐฯซึ่งเป็นผู้จัดทำรายงานของ Keiser นั่นเอง

Keiser เชื่อว่าโลกกำลังหมุนไปข้างหน้าสู่จุดที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ยุคโลกานิวัฒน์ หรือ deglobalization ซึ่งจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯนั้นเสื่อมอำนาจลงโดยเฉพาะในการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศและกำดำเนินธุรกรรมทางการเงิน

เค้ายังได้กล่าวถึงระบบธุรกรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลกในชื่อ SWIFT จากประเทศเบลเยี่ยมในฐานะคู่แข่งของสกุลเงินคริปโต “ Ripple” ซึ่งตัวเค้าเองคิดว่ามันได้ถูกควบคุมโดยสถาบันการเงินของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นตัวสหรัฐฯเองที่กำกับควบคุม SWIFT ว่าประเทศใดสามารถหรือไม่สามารถที่จะใช้ระบบดังกล่าวได้

ในปัจจุบันประเทศต่างๆรวมทั้งประเทศเยอรมันกำลังวุ่นอยู่กับการพัฒนาระบบธุรกรรมทางการเงินของตัวเองซึ่งเป็นเอกเทศจากอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาซึ่งได้ส่งผลต่อผู้ร่วมค้าอื่นๆในตลาดมากเกินไป

มุมมองของ Keiser ต่อ Bitcoin

ผู้เผยแพร่ข่าวและอดีตนักเทรดในนาม Keiser ผู้ซึ่งมีความเชื่อในตัว Bitcoin รวมถึงประสิทธิภาพของสกุลเงินนี้ ที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยราคาของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯหรือปัจจัยทางตลาดอื่นๆเช่นในอดีตเป็นฐาน เห็นได้ชัดจากสิ่งที่เค้าได้กล่าวในบทสัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้

เช่นเดียวกับที่ Keiser มีความเห็นตามว่า Bitcoin นั้นมีประสิทธิภาพที่จะต่อกรกับธนาคารพาณิชย์โดยอาศัยระบบรายการเดินบัญชีแบบกระจายตัว หรือ distributed ledger ที่ตั้งอยู่บนหลักการทางคณิตศาสตร์และ blocks ข้อมูลต่างๆซึ่งไม่สามารถถูกควบคุมโดยธนาคารพาณิชย์ได้เลย

กรณีเป็นอย่างเดียวกันสำหรับตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ Keiser ได้กล่าวว่าประสิทธิภาพในการดำเนินการที่ย่ำแย่ของตลาดดังกล่าวได้ผลักดันให้นักลงทุนหันไปเข้าร่วมตลาดคริปโตกันมากขึ้น ตั้งแต่ที่คริปโตเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุนระยะยาวเพื่อหวังผลกำไร ซึ่งในขณะเดียวกัน ระบบการลงทุนแบบเก่าดังเช่นหุ้นกลับดิ่งลงเรื่อยๆในทางตรงกันข้าม

แม้ว่ามูลค่าของ Bitcoin ในช่วงนี้ดูเหมือนจะยังไม่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนมากนัก แต่ Keiser ยังเชื่อว่ามันจะทยานขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาวอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคมช่วงปี 2017 นาย Max Keiser ได้เคยออกมาทำนายว่าราคา Bitcoin จะพุ่งถึง 10,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ราคาของมันอยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์เท่านั้น โดยขณะนั้นเขากล่าวว่า

“มี กระเป๋า Bitcoin จำนวน 30,000 ตัวที่ถูกเปิดใหม่รายวัน แล้วกองทุน ETF ก็กำลังใกล้เข้ามา Wall Street กำลังเริ่มต้นลงทุนมัน ผู้ออกกฎหมายกำลังเริ่มมองเห็นความสำคัญของมัน สวัสดีราคาที่ 10,000 ดอลลาร์!”

ที่มา : u.today

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น