<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

หุ้น MemeStrategy พุ่ง 29% หลังบริษัททุ่มเงิน 12 ล้านบาท ซื้อ Solana ตั้งคลังสำรองเป็นเจ้าแรกของฮ่องกง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในวงการคริปโตหลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อ  Strategy มาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นบริษัทผู้บุกเบิกแนวคิดใช้กลยุทธ์ซื้อ Bitcoin มาเก็บไว้เป็นคลังสำรองของบริษัท จนกลายเป็นต้นแบบให้หลายองค์กรทั่วโลกหันมาเดินรอยตาม

ล่าสุด ชื่อของ “MemeStrategy” ได้กลายเป็นที่พูดถึงในวงการอีกครั้ง ด้วยชื่อที่ฟังดูคล้ายกับ Strategy อย่างมาก จนหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการ “ตั้งชื่อเลียนแบบ” แบบจงใจ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีชื่อชวนให้นึกถึงบริษัทของ Michael Saylor แต่ MemeStrategy กลับมีแนวทางที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาองค์กรผ่านวัฒนธรรมมีม การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Web3

MemeStrategy เป็นบริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ก่อตั้งโดย Ray Cha เจ้าของเว็บไซต์มีมชื่อดังอย่าง 9GAG ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 200 ล้านคน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อ Solana จำนวน 2,440 SOL คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.9 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 12 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาหุ้นของ MemeStrategy ถีบตัวพุ่งขึ้นทันทีกว่า 28.5% ภายในวันเดียว

และการเข้าซื้อ Solana ครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเก็บเหรียญไว้เฉย ๆ เท่านั้น แต่ MemeStrategy ยังนำเหรียญไปทำ Staking เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว พร้อมมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่าย Solana ด้วยแนวทางแบบ Proof-of-Stake นี่จึงสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้มอง Solana เป็นเพียงแค่สินทรัพย์เก็งกำไร แต่เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยุค Web3 

แม้จะเป็นบริษัทน้องใหม่ในสายตาหลายคน แต่ MemeStrategy ก็ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการคริปโตเสียทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ 9GAG เคยเปิดตัวโครงการ NFT ในชื่อ “Memeland” ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อปี 2022 ถือเป็นการปูทางเข้าสู่โลกคริปโตของทีมผู้ก่อตั้งมาก่อนแล้ว

แนวทางของ MemeStrategy ยังสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ใหม่ของบริษัทที่หันมาถือครอง Altcoins เป็นสินทรัพย์สำรองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Sharplink Gaming ที่ประกาศลงทุนใน Ethereum หรือข่าวลือเกี่ยวกับบริษัทที่กำลังจะตั้งทุนสำรองด้วย XRP ทำให้ต้องจับตาดูต่อไปว่าในอนาคต บริษัทหน้าใหม่รายใดจะเลือกถือครองเหรียญอะไรเป็นสินทรัพย์ยุทธศาสตร์ในโลกการเงินยุคใหม่บ้าง

ที่มา : cointelegraph