Sealana ($SEAL) โปรเจกต์เหรียญมีมน้องใหม่ ที่มาพร้อมความน่ารักของเจ้าแมวน้ำอเมริกัน สามารถระดมทุนไปได้มากกว่า $500,000 ในช่วงสองสัปดาห์แรกตั้งแต่มีการเปิดตัวโปรเจกต์
$SEAL เป็นเหรียญมีม multichain ซึ่งภายในหน้า เว็บไซต์หลัก จะมีเครื่องมือวิดเจ็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของเหรียญ $SEAL ได้อย่างง่ายดายผ่านบล็อกเชนสามเจ้าที่แตกต่างกัน โดยทุกคนที่มี SOL , ETH , BNB นั้นจะสามารถเชื่อมต่อกระเป๋าเงินของพวกเขาและเลือกซื้อ Sealana ได้ทันทีในราคาพรีเซลคงที่ที่ $0.022 ต่อโทเคน
ในปีนี้มีนักลงทุนหลั่งไหลเข้ามาซื้อเหรียญมีมใหม่ ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึง $SEAL ที่อยู่บนเชนของ Solana เนื่องจากเครือข่ายดังกล่าวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนแซงหน้า Ethereum และกลายเป็นบล็อกเชนที่ได้รับความนิยมในการเปิดตัวเหรียญมีม
เช่นเดียวกับ Sealana ที่กำลังเดินเตาะแตะตามหลังการเปิดตัวเหรียญมีม ICO ที่เป็นไวรัลไปเมื่อเร็ว ๆ นี้อย่าง Slothana ($SLOTH)
Slothana เป็นเพื่อนร่วมเครือของ Sealana ที่สามารถระดมทุนได้กว่า 15 ล้านดอลลาร์ จากการพรีเซลเพียงแค่เดือนเดียว ซึ่งปัจจุบันเหรียญได้มีการลิสต์ขึ้นบน DEX อย่าง Raydium, Poloniex และ XT.com ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นถึง 40% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากกลไกการเผาโทเค็นอย่างฉลาดทุกครั้งที่ราคาขึ้น
ทำให้ตอนนี้ดูเหมือนว่า Sealana จะเป็นเหรียญมีมที่น่าจับตามองตัวถัดไปของ Solana นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าทีมงานที่อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์อาจเป็นนักพัฒนาของ Slerf ($SLERF) ซึ่งเป็นเหรียญ meme ตัวดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอย่างสูง
Sealana คลื่นลูกใหม่ของเหรียญมีมบน Solana
สำหรับแหล่งแรงบันดาลใจในออกแบบ Sealana จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีการออกแบบจากตำนานตัวละครสุดไวรัลจาก การ์ตูนยอดฮิต South Park ที่ชื่อ Gamer Guy หรือ Fat Computer Nerd ที่เป็นเกมเมอร์ World of Warcraft และมีจุดเด่นที่สายตาที่จ้องจอไม่กะพริบ ห้องที่รกรุงรัง รวมถึงความอ้วนที่ท้าทายแรงโน้มถ่วงของเขา
Sealana ได้เป็นตัวแทนบทบาทของกลุ่มนักรบคีย์บอร์ดที่แสดงความเห็นที่รุนแรงและเจ็บแสบ ไปจนถึงคนเกียจคร้านที่เฉลียวฉลาด
สำหรับนิสัยของ Sealana ในตอนกลางวันเขาก็ติดอยู่ที่โต๊ะทำงานและอ้วนขึ้นทุกวัน ขณะที่ครีบของ Sealana ก็ขยับที่ไปทั่วโต๊ะเพื่อหาอาหารอย่างมันฝรั่งทอดและปลาทูน่ากระป๋อง โดยสาเหตุที่เขารัก Solana เป็นเพราะมันเป็นเหรียญคริปโตมีความสำคัญเชิงพาณิชย์เป็นอันดับสอง และบล็อกเชนดังกล่าวได้สร้างตัวเองให้เป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่ดีที่สุดในการเปิดตัวเหรียญมีมแบบ high-volume
จะเห็นได้ว่าในระยะเวลาสั้น ๆ โปรเจกต์อย่าง DogWifHat ($WIF), Bonk ($BONK), Book of Meme ($BOME) และ Popcat ($POPCAT) ได้ทำราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าจนกลายเป็นเหรียญมีมที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดสิบอันดับแรก
Solana เป็นเครือข่ายที่สามารถพลิกเอาชนะ BNB จนกลายเป็น cryptocurrency ที่ใหญ่เป็นอันดับสามตามมูลค่าตลาด โดยปัจจุบัน Solana เป็นบล็อกเชนที่มีมูลค่าสินทรัพย์ที่ถูกล็อกไว้รวมกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ (TVL) ขณะที่ตัวของแอปและบริการทางการเงินต่าง ๆ มีผู้ใช้งาน 1.16 ล้านคน ทำธุรกรรมรายวัน และมี นักพัฒนาที่ใช้งานมากกว่า 2,500 รายต่อเดือน
การ Halving และ ETF
การเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตในช่วงต้นปีสะท้อนให้เห็นถึงการที่ตลาดมีการรวมตัวกันในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่ผลกระทบของการ “Bitcoin halving” จะปรากฏออกมาชัดเจน
การลดรางวัลการขุดลงครึ่งหนึ่งจาก 6.25 BTC ต่อบล็อกเหลือ 3.125 ส่งผลให้การออก BTC ใหม่ลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งในปีนี้ ราคา Bitcoin ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล หลังจากที่สหรัฐฯ ได้อนุมัติ Bitcoin Spot ETFs ไปในเดือนมกราคม ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่า เหรียญคริปโตทั้งหลายจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากอุปทาน Bitcoin นั้นถูกปรับลดลง
การ Halving ตลอดสามครั้งที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าทำให้ราคาของคริปโตเพิ่มมากขึ้นภายในหนึ่งปีนับจากการอัปเดต ซึ่งแท่งเทียนสีเขียวเต็มตลาดในอนาคตอันใกล้นี้จะกระตุ้นให้มียุคทองของเหรียญมีมลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ Solana และโปรเจกต์เหรียญคริปโตบนเครือจะกลายเป็นผู้นำในตลาด
หากสนใจโปรเจกต์ดังกล่าวสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์
และสามารถติดตามข่าวสารการพัฒนาล่าสุดผ่าน Twitter ของ Sealana
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์