<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 อันดับเหรียญ Scam ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Cryptocurrency ได้เข้ามาปฏิวัติในเรื่องของการทำธุรกรรมด้านการเงิน แต่ก็ยังสามารถหลอกลวงนักลงทุนได้ตลอดในช่วงเก้าปีที่ผ่านมา

ที่ Bitcoin และ Altcoins จำนวนมากนั้นประสบความสำเร็จก็เพราะว่าได้นำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ก็มี ICO ที่เป็น SCAM ออกมามากมายและทำให้เกิดความสูญเสียกับนักลงทุนเป็นจำนวนมาก

ICO ที่เป็น SCAM มีจำนวนมากมายมหาศาล

ตั้งแต่ที่ Bitcoin ออกมาในปี 2009 นั้น ผู้คนต่าง ๆ ก็เริ่มหลงไหลกับแนวคิดของเทคโนโลยี Blockchain  อย่างมากมาย และเมื่อเวลาผ่านไปนักพัฒนาซอฟต์แวร์และนักธุรกิจก็เริ่มสร้างโซลูชั่นของตัวเองด้วยเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบ Decentralized นี้

และนี่ก็นำไปสู่การพัฒนาแพลตฟอร์ม Ethereum และสกุลเงินเสมือน (Virtual Currency) ตัวอื่น ๆ  และการระดมทุน ICO ก็กลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปี 2017

และเนื่องจาก ICO ต่าง ๆ ไม่เคยให้คำสัญญาว่าในอนาคตนั้นผลผลิตของมันจะงอกงาม ฉะนั้นนักลงทุนต้องใช้ความเชื่อมั่นของตัวเองในการใช้เงินของพวกเขาลงทุนใน ICO และนี่เองก็เป็นที่มาของ ICO ที่เป็น SCAM นั่นเอง

และนี่คือ 3 อันดับเหรียญ Scam ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Pincoin และ iFan

นี่คือการระดมทุน ICO เหรียญ SCAM ครั้งยิ่งใหญ่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยสองเหรียญนี้ดำเนินการโดยบริษัทเดียวกันที่เวียดนาม โดยทำการหลอกลวงนักลงทุนจำนวนประมาณ 32,000 คนรวมเป็นเงิน 660 ล้านดอลลาร์

โดยบริษัท Modern Tech ได้ปิดสำนักงานในเมืองโฮจิมินห์เมื่อเดือนที่แล้ว จึงกลายเป็นการขโมยเงินจากนักลงทุนโดยปริยาย และการระดมทุน ICO เหรียญ SCAM ในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

OneCoin

Onecoin เป็นเหรียญที่โดนทำการตรวจสอบตลอดเวลาในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา และกลายเป็นเหรียญที่มีสถานะ “แชร์ลูกโซ่” ในอินเดียเมื่อปี 2017 และในเมืองไทยก็มีการมีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้โดยอ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของดร.ภูมิ ภูมิรัตน กับรายการโทรทัศน์ของคสช. “เดินหน้าประเทศไทย” โดยเขากล่าวว่า

“มีคนมาสร้าง Coin ใหม่นะครับ เมื่อก่อนก็มีเรียกกันว่า OneCoin อย่างเงี้ยเป็นต้นอันเนี้ยเป็นแชร์ลูกโซ่ชัดเจน คือจริง ๆ ไม่มี Coin อะไรเลย ไม่มีการพัฒนาไม่มีตลาดรองรับอะไรทั้งสิ้น แต่ทำหน้าเว็บมาให้เหมือนแล้วก็หลอกคนบอกว่าเนี่ย ถ้าคุณจ่ายตังมานะ แล้วก็ทำเว็บ Application มาให้คนล็อกอินเข้าไปดูได้ว่ามีตัง แล้วก็มีเงินโอนเข้าจริง แต่จริง ๆ ไม่มีอะไรเลย ก็มีคนโดนหลอก”

Bitconnect

และนี่ก็เป็นอีกเหรียญแชร์ลูกโซ่โดยเมื่อต้นปี 2018 นั้นเหรียญ Bitconnect ถูกรัฐบาลรัฐเท็กซัสสั่งห้ามซื้อขายฉุกเฉินเนื่องจากมีลักษณะหลอกลวง

โดยผู้ใช้ต้องทำการซื้อ Bitcoin เพื่อเอาไปซื้อเหรียญ Bitconnect Coin (BCC) บนแพลตฟอร์มของ Bitconnect ซึ่ง Bitconnect เป็นแพลตฟอร์มที่มีจุดเด่นด้านการกู้ยืม (Lending) โดยแพลตฟอร์มนี้เปิดตัวในเดือนมกราคมปี 2017 นั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มของ Bitconnect ก็ทำการปิดตัวลงทำให้ส่วนของการกู้ยืมนั้นต้องปิดตัวลงไปด้วย ราคาของเหรียญ Bitconnect ก็ลดลง 90% จนทำให้นักลงทุนเกิดความเครียดไม่สามารถขายเหรียญของพวกเขาได้

ผู้ใช้จำนวนหนึ่งได้เริ่มดำเนินการฟ้องร้องกับ Bitconnect เพื่อชดใช้ค่าเสียหายซึ่งเป็นจำนวนเงิน 700,000 ดอลลาร์สำหรับการเรียกร้องค่าเสียหาย

นักลงทุน ICO ต้องตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุน โดยการอ่าน Whitepaper ของโครงการนั้น ๆ ให้ละเอียด ปรึกษาคนรอบข้างหรือลองอ่านการรีวิว ICO จากเว็บต่าง ๆ

หมายเหตุ: การลงทุนในตัวเหรียญ Cryptocurrency มีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน

 

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น