Kenneth Rogoff นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เคยทำนายว่า ราคาบิตคอยน์มีแนวโน้มจะร่วงลงไปที่ราคา 100 ดอลลาร์ มากกว่าที่ราคาจะพุ่งขึ้นไปถึง 100,000 ดอลลาร์ ล่าสุดเขาก็ได้ออกมายอมรับว่า เขาคิดผิดไปหลายเรื่อง แม้จะยังไม่เปลี่ยนมุมมองเชิงบวกที่มีต่อบิตคอยน์ก็ตาม
เคนเน็ธ โรก็อฟ (Kenneth Rogoff) ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า “เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ผมในฐานะนักเศรษฐศาสตร์จากฮาร์วาร์ด เคยประเมินว่า บิตคอยน์ มีโอกาสที่จะมีมูลค่า 100 ดอลลาร์ มากกว่า 100,000 ดอลลาร์ แต่สิ่งที่ผมพลาดไปนั้นมีหลายประการ
ประการแรก ผมมองโลกในแง่ดีเกินไปว่า สหรัฐฯ จะออกกฎหมายควบคุมคริปโตเคอร์เรนซีอย่างเหมาะสม เพราะเหตุใดผู้กำหนดนโยบายถึงอยากอำนวยความสะดวกให้กับการหลีกเลี่ยงภาษี และกิจกรรมผิดกฎหมาย ?
ประการที่สอง ผมไม่ได้ตระหนักว่า Bitcoin จะสามารถเข้ามาแข่งขันกับสกุลเงินปกติ เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรมในเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลถึง 20 ล้านล้านดอลลาร์ ความต้องการจากตลาดมืดนี้เองที่ช่วยสร้าง “ฐานราคา” ให้กับ Bitcoin ซึ่งผมได้อธิบายไว้โดยละเอียดในหนังสือเล่มใหม่ชื่อ Our Dollar, Your Problem และประการสุดท้าย ผมไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดสถานการณ์ที่ผู้กำกับดูแล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าผู้กำกับดูแล จะสามารถถือครองคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่าหลายร้อยล้าน (หรืออาจถึงพันล้าน) ดอลลาร์ได้อย่างโจ่งแจ้ง โดยไม่มีผลกระทบใด ๆ ทั้งที่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนที่ชัดเจน”
ในปี 2018 เคนเน็ธ โรก็อฟ (เคยคาดการณ์ว่า กฎระเบียบของรัฐบาลจะทำให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลงอย่างหนัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ราคาบิตคอยน์ได้พุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม 2024 และราคาเพิ่มขึ้นต่ออีกกว่า 80% จนทำสถิติสูงสุดใหม่ ซึ่ง Rogoff ยอมรับว่าเขา “มองโลกในแง่ดีเกินไปว่าสหรัฐฯ จะออกกฎเกณฑ์ที่สมเหตุสมผลสำหรับคริปโตฯ”

ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 1,000% นับตั้งแต่การคาดการณ์ของ Rogoff ในปี 2018 ที่มา: TradingView
ถึงแม้จะมีรายงานจาก Chainalysis ระบุว่า มีการใช้คริปโตฯ ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายมูลค่าถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2024 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1% ของการฟอกเงินทั้งหมดที่ใช้เงินสดเป็นหลัก แต่บิตคอยน์ก็ยังคงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : cointelegraph

