บริษัทสัญชาติจีนที่เข้าไปลงทุนในโครงการ Belt and Road อาจเริ่มใช้ Stablecoin สกุลเงินหยวนในไม่ช้า เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจช่วยเร่งให้เงินหยวนดิจิทัลถูกนำไปใช้ในระดับสากลเร็วขึ้น หลิว จิง (Liu Jing) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ HSBC Global Investment Research ชี้ว่า การบรรจบกันของสามปัจจัย ได้แก่ การออก Stablecoin ของภาคองค์กร, เงินหยวนดิจิทัล และกรอบกฎหมาย Stablecoin ฉบับใหม่ของฮ่องกง อาจเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าการไหลเวียนของเงินทุนข้ามพรมแดนได้
แก้ปัญหาค่าเงินผันผวนในต่างแดน
หลิวตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทที่ลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่มักจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของค่าเงินท้องถิ่น ซึ่งหากไม่มีเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ใช้งานได้จริง ความผันผวนเหล่านี้จะสร้างความเสี่ยงทั้งในการดำเนินงานและการเงิน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่หลายแห่งของจีนได้แสดงความสนใจในการออก Stablecoin สกุลเงินหยวนเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการชำระเงินสำหรับโครงการในต่างประเทศ
Stablecoin ดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทจีนสามารถจัดการกับความผันผวนของสกุลเงินและทำให้การทำธุรกรรมข้ามเขตอำนาจศาลมีความคล่องตัวมากขึ้น
‘หยวนดิจิทัล’ ในบทบาทตัวกลางเชื่อมโลก
อย่างไรก็ตาม การมี Stablecoin สกุลเงินหยวนหลายสกุลจากผู้ออกหลายรายอาจสร้างปัญหาการแยกส่วน (Fragmentation) หลิวชี้ว่า ปัญหานี้อาจต้องการแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อถือได้เพื่อเชื่อมโยง Stablecoin เหล่านี้เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นจุดที่ “เงินหยวนดิจิทัล” สามารถเข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะตัวกลางได้
ธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (PBOC) ได้เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อขยายการใช้งานเงินหยวนดิจิทัลในระดับโลกแล้ว โดยผู้ว่าการธนาคาร พาน กงเซิ่ง (Pan Gongsheng) ได้กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระหว่างประเทศสำหรับสกุลเงินดังกล่าวในงาน Lujiazui Forum เมื่อเดือนมิถุนายน หลิวชี้ว่าความคิดริเริ่มนี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของหน่วยงานกำกับดูแลในการขยายการประยุกต์ใช้เงินหยวนดิจิทัลให้กว้างไกลกว่าขอบเขตในประเทศ
ฮ่องกง ฐานปล่อยจรวดสู่เวทีโลก
คาดว่าฮ่องกงจะมีบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้ โดยฮ่องกงได้ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับ Stablecoin แล้ว ซึ่งเป็นการสร้างกรอบการกำกับดูแลสำหรับการพัฒนาโทเคนเพื่อการชำระเงินดิจิทัล แม้ว่าการออกในระยะแรกอาจเป็น Stablecoin ที่ผูกกับเงินดอลลาร์ฮ่องกง แต่โครงสร้างเดียวกันนี้ก็สามารถรองรับ Stablecoin สกุลเงินหยวนได้เช่นกัน
ปัจจุบัน ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางเงินหยวนนอกประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังคงมีข้อตกลงสวอปสกุลเงินกับธนาคารกลางของจีน หลิวเน้นย้ำว่ารากฐานเหล่านี้ทำให้ฮ่องกงอยู่ในตำแหน่งหัวสะพานสำหรับการทดสอบและขยายสินทรัพย์ดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับเงินหยวน
ที่มา: hket

