JBS USA Holdings Inc. ซึ่งเป็นบริษัทขายเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการขายเนื้อวัวแปรรูป เนื้อไก่และเนื้อหมูจากออสเตรเลียไปยังอเมริกาใต้และยุโรป ได้จ่ายเงินค่าไถ่เป็นบิทคอยน์มูลค่ากว่า 11 ล้านดอลลาร์ให้กับแฮ็กเกอร์ เพื่อป้องกันโรงงานจากการหยุดการทำงานลงอีกครั้ง
Andre Nogueira หัวหน้าผู้บริหารแผนกธุรกิจเนื้อสัตว์ในสหรัฐฯ ของบริษัทได้กล่าวว่าการตัดสินใจจ่ายเงินเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่ต้องทำหลังจากโรงงานส่วนใหญ่ได้กลับมาดำเนินการอีกครั้ง และเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการโจมตีอีก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Wall Street Journal ได้รายงานว่า FBI กล่าวว่าการโจมตี JBS นั้นเป็นฝีมือของ REvil กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศรัสเซีย
การโจมตีเรียกค่าไถ่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะเพิ่มความกดดันให้สมาชิกสภานิติบัญญัติ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ Elizabeth Warren วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตได้เรียกร้องให้มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมคริปโตเคอร์เรนซี โดยกล่าวว่าสกุลเงินดิจิทัลช่วยสร้างโอกาสให้อาชญากรหลอกลวงนักลงทุน
“การแฮ็กที่จ่ายค่าตอบแทนเป็นคริปโตเคอร์เรนซี กลายเป็นเหมือนกับโฆษณาให้แฮ็กเกอร์ออกมาทำการโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้นยังไงยังงั้น”
การโจมตี JBS เป็นส่วนหนึ่งของผลกระทบที่เกิดจากการเรียกค่าไถ่ Colonial Pipeline ซึ่งตามรายงานจาก Cointelegraph ทาง FBI สามารถกู้คืนบิทคอยน์จำนวน 63.7 BTC ที่ถูกจ่ายให้กับกลุ่มแฮ็กเกอร์ DarkSide ได้แล้ว
ขณะเดียวกันก็เกิดคำถามในกลุ่มชาวคริปโตเกี่ยวกับวิธีการที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางใช้เพื่อเข้าถึง Private Key ของกลุ่มแฮ็กเกอร์ ซึ่งมีบางคนออกมาแสดงความคิดเห็นว่า Coinbase อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับกลุ่มครั้งนี้ แต่ทางผู้บริหารของบริษัท Coinbase ก็ได้ออกมาปฏิเสธทฤษฎีดังกล่าว
ตามข้อมูลจาก Evertas บริษัทประกันสินทรัพย์คริปโตระบุว่า กลุ่ม DarkSide อยู่ภายใต้การตรวจสอบของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอยู่ก่อนแล้ว และกลุ่มแฮ็กเกอร์ยังได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่า พวกเขาสูญเสียการควบคุมโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงความสามารถในการเข้าถึงคริปโตที่พวกเขาได้มา ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า Private Key ของกลุ่มแฮ็กเกอร์นั้นอาจอยู่ในการครอบครองของ FBI
Evertas ได้วิเคราะห์การถ่ายโอนโดยใช้เครื่องมือ Open-Source และการวิเคราะห์บล็อกเชน เพื่อเปิดเผยข้อมูลที่ว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ได้แบ่งค่าไถ่ออกไปในสาม Addresses ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
โดย Addresses ที่ควบคุมโดย DarkSide มีบิทคอยน์ทั้งหมด 114 BTC จนถึงกลางเดือนพฤษภาคม และเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา FBI ได้ทำการยึดบิทคอยน์จำนวน 63.7 BTC จากหนึ่งใน Addresses นั้น โดย Evertas เชื่อว่า FBI ได้ควบคุมบิทคอยน์ส่วนที่เหลืออยู่
“Evertas สงสัยว่า FBI อาจจะควบคุมบิทคอยน์ส่วนที่เหลือจำนวน 114 BTC และอาจกำลังหาความเชื่อมโยงไปสู่การโจมตีอื่น ๆ ก่อนจะทำการยึดเงินอย่างเป็นทางการ”
แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ Danyaal Rashid นักวิเคราะห์จาก GlobalData บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเชื่อว่าคริปโตเคอร์เรนซีจะมีความปลอดภัยน้อยลง เนื่องจากการยึดเงินดังกล่าวจะนำสู่การควบคุมแบบสกุลเงิน fiat
“บิทคอยน์ควรจะปลดปล่อยเราออกจากการควบคุมของรัฐบาล แต่ความจริงที่ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ สามารถกู้คืนค่าไถ่ส่วนใหญ่นี้ได้ มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ควรจะเป็น”