เมื่อวันพุธที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนได้ออกมาประกาศการจับกุมกลุ่มคนที่เชื่อว่าเป็นแก๊งอาชญากรที่ผิดกฎหมาย ที่ใช้คริปโตเคอร์เรนซีเพื่อวัตถุประสงค์ในการฟอกเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมาย
โดยกระทรวงความมั่นคงสาธารณะกล่าวถึงการพัฒนาล่าสุดว่าเป็นการรวมศูนย์เครือข่ายรอบที่ห้า ที่มุ่งเน้นไปที่ผู้คนที่ใช้คริปโตเคอร์เรนซี เพื่อวัตถุประสงค์ในการฟอกเงิน โดยการสอบสวนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัย 1,100 คนและทลายกลุ่มอาชญากรกว่า 170 กลุ่ม
ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2020 รัฐบาลจีนได้มีการดำเนินการใช้มาตรการที่รุนแรงเพื่อต่อสู้กับการฟอกเงิน รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผิดกฎหมายในประเทศ โดยให้ความสำคัญไปที่อุตสาหกรรมคริปโตและโทรคมนาคมเป็นหลัก ทำให้ทางการของจีนมีอำนาจในการหยุดการไหลของเงินและจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ตามการดำเนินการระงับบัตร
การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลก่อให้เกิดการระงับบัญชีในวงกว้าง โดยทางธนาคารได้รายงานว่าทำการระงับบัญชีหรือบัตรเครดิตที่เชื่อมโยงกับการทำธุรกรรมคริปโต ที่สร้างผลกระทบกับนักขุดในจีนกว่า 70% ในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ตามรายงานจาก CryptoPotato
ปัจจุบันจีนยังคงแสดงจุดยืนที่ไม่สนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี หลังจากสภาของจีนได้เรียกร้องให้มีการแบนการขุดเหมืองบิทคอยน์ในประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ตามรายงานจาก CryptoPotato เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลได้บล็อกบัญชี Weibo ของผู้มีอิทธิพลในวงการคริปโต รวมถึงการสั่งปิดเหมืองบิทคอยน์ที่ซินเจียงและมองโกเลีย นอกจากนี้ Baidu และ Weibo บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านบริการอินเทอร์เน็ตของจีน ยังมีการเซ็นเซอร์คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ Huobi, OKEx และ Binance
แม้จะยังคงมี FUD มากมายจากประเทศจีน แต่ในประเทศต่าง ๆ ก็เริ่มมีข่าวดีสำหรับบิทคอยน์ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ
เอลซัลวาดอร์กลายเป็นประเทศแรกที่ยอมรับให้บิทคอยน์สามารถใช้หนี้ได้ตามกฎหมาย แม้จะต้องรอ 90 วันในการออกกฎหมาย แต่ตามข้อมูลที่ปรากฎในเว็บไซต์ Wikipedia ได้ระบุว่าบิทคอยน์เป็นหนึ่งในสกุลเงินของเอลซัลวาดอร์
นอกจากนี้ประเทศในแถบอเมริกากลางยังระบุว่ารัฐบาลจะให้สัญชาติแก่บุคคลที่ลงทุนบิทคอยน์จำนวน 3 BTC ในระบบเศรษฐกิจของตน ประเทศปารากวัยยังกล่าวด้วยว่า จะเริ่มทำงานในโครงการที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์และ PayPal