<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อนาคตของ Blockchain กับ สังคมไร้เงินสดในประเทศไทย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปัจจุบันสังคมไทยเริ่มสนใจในเทคโนโลยี Blockchain หรือ Cryptocurrency เป็นอย่างมาก เพราะด้วยตัวเทคโนโลยี Blockchain เองนั้นสามารถอำนวยความสะดวกในเรื่องข้อมูลได้เป็นอย่างดี

Blockchain สามารถช่วยในเรื่องของข้อมูลและนอกจากนี้ยังมาช่วยในเรื่องของการทำธุรกรรมในการชำระเงินได้อีกด้วย จากที่ผ่านมา Blockchain ที่เน้นเรื่องความเร็วในการชำระเงินก็คือ Ripple ที่มีแพลตฟอร์ม xRapid หรือ xCurrent

นอกจากนั้นประเทศไทยก็เริ่มหันมารณรงค์เรื่องของ Cashless Society หรือสังคมไร้เงินสด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Online หรือ Mobile Banking โดยที่ผ่านมาก็จะได้ยินข่าวที่ว่าร้านค้าส่วนใหญ่ก็เริ่มใช้ QR Code ในการชำระเงิน ซึ่งจุดประสงค์ของมันก็คือเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการชำระเงินนั่นเอง

Mobile Banking ล่ม?

แต่ก็ใช่ว่าสังคมไร้เงินสดจะราบรื่นเสมอไป เพราะถ้าได้ติดตามข่าวด้านการเงินเป็นประจำนั้น เมื่อไม่นานมานี้มีเหตุการณ์ที่การใช้งาน Mobile Banking ทั่วประเทศนั้นล่ม ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เงินเดือนออกพอดี ซึ่งเหตุการณ์นั้นก็ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินของประเทศนั้นล่มทันที

โดยสาเหตุที่ล่มนั้นก็เพราะมีปริมาณการทำธุรกรรมข้ามธนาคารจำนวนมากเกิดปัญหาระบบขัดข้องทำให้เกิดรายการค้างรอจำนวนมาก และทำให้ส่งผลกระทบไปสู่ธนาคารหลายแห่ง อีกทั้งยังทำให้เกิดการสะดุดหรือล่าช้าในการทำธุรกรรมโดยเฉพาะบริการ Mobile Banking

ฟรีค่าธรรมเนียม?

นอกจากนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางธนาคารพาณิชย์หลายแห่งก็ได้ประกาศฟรีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบน Application มือถือหรือ Mobile Banking ซึ่งในตอนนั้นนับว่าเป็นสัญญาณการปรับตัวของแบงก์ไทยอย่างชัดเจน ด้วยเหตุผลที่ว่าอาจถูกแพลตฟอร์มหรือเทคโนโลยีใหม่เข้ามาทำลาย (Disrupt) โดยเฉพาะเทคโนโลยี Blockchain

โดยการที่ธนาคารได้ประกาศฟรีค่าธรรมเนียมนั้นก็เพื่อเป็นการที่จะทำให้ประชาชนคนไทยหันมาสร้างสังคม Cashless Society อย่างแท้จริง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในวงการธนาคารหรือด้านการเงินเลยทีเดียว

จีนคือสังคมไร้เงินสดแล้ว

ถ้าพูดถึงเรื่องสังคมไร้เงินสดนั้น ประเทศจีนก็คือว่าเป็นประเทศที่เป็นสังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง เพราะอ้างอิงจาก FT Confidential Research ของ Financial Times ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคเกี่ยวกับการเลือกบริการชำระเงินในจีน จำนวน 1,000 คนในช่วง 3 เดือน ในปี 2560 พบว่า 82.6% เลือกใช้ Alipay เป็นบริการหลัก โดยเฉพาะประชากรที่อาศัยในเมืองรองระดับ 2 (2nd Tier Cities) และหัวเมืองหลัก (1st Tier Cities) เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เซินเจิ้น ขณะที่สัดส่วนของผู้ใช้บริการ WeChat คิดเป็น 64.3%

นอกจากนี้นาย Jack Ma หรือประธานบริษัท E-Commerce ยักษ์ใหญ่ของจีนได้กล่าวอีกว่าเขานั้น “สนใจใน Blockchain และ Bitcoin เพื่อสร้างสังคมไร้เงินสด” โดยเขาได้ระบุว่า “Bitcoin คือสิ่งที่เราอยากรู้ว่ามันมีมูลค่ามากแค่ไหน และอะไรที่จะทำให้ Bitcoin มาเปลี่ยนแปลงสังคมได้ แต่เทคโนโลยีที่อย่เบื้องหลัง Bitcoin นั่นแหละที่จะทำให้มันมีพลัง”

สรุป

ถ้ากล่าวถึงอนาคตของสังคมไร้เงินสดในประเทศไทยนั้น พวกเราก็เริ่มเห็นแล้วว่าในแต่ละภาคส่วนก็เริ่มนำ Blockchain มาร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์ “อินทนนท์” ที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยลดต้นทุนในด้านการเงินอย่างเช่นผู้ตรวจสอบที่เป็นตัวกลาง โดยโปรเจกต์นี้จะทดสอบระหว่างธนาคารเท่านั้น และแบงก์ชาติจับมือแบงก์พาณิชย์ 8 แห่ง ดัน “โปรเจ็กต์อินทนนท์” เพื่อทดสอบเงินดิจิทัล และเราอาจได้เห็นสังคมไทยอาจเป็นสังคมไร้เงินสดก็เป็นได้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น