<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Satoshi Nakamoto กล่าว Bitcoin สามารถรองรับธุรกรรมมากกว่าบัตร Visa ได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นาย Martti Malmi ได้ออกมาเผยแพร่อีเมลที่เขาพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา Bitcoin กับนาย Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin ในช่วงปี 2019-2011

อีเมลที่มีความยาวถึง 120 หน้าได้ถูกเผยแพร่ออกมาได้ยืนยันว่า Bitcoin มีศักยภาพเทียบเท่าเครือข่ายบัตรเครดิต Visa ในตอนนั้น ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2009 โดยในตอนนั้นสามารถประมวลได้ประมาณ 15 ล้านครั้งต่อวันทั่วโลก

นาย Nakamoto ยืนยันว่า Bitcoin สามารถขยายขนาดใหญ่กว่า Visa ได้แล้วด้วยฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่และมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย เขามั่นใจในความสามารถในการขยายขนาดของ Bitcoin และบอกว่ามันจะไม่ถึงขีดจำกัด

เหตุผลของเขาได้อ้างอิงมาจากกฎของ Moore ซึ่งทำนายว่าความเร็วของฮาร์ดแวร์จะเพิ่มขึ้น 10 เท่าในเวลา 5 ปี และ 100 เท่าใน 10 ปี โดยเขาเชื่อว่าความเร็วของคอมพิวเตอร์จะแซงหน้าจำนวนธุรกรรม Bitcoin

ค่าธรรมเนียมของ Bitcoin

นาย Nakamoto คิดว่าค่าธรรมเนียมอาจไม่จำเป็นสำหรับอนาคตอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้ใส่กลไกประมวลผลธุรกรรม ซึ่งช่วยให้ตลาดสามารถกำหนดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำที่ยอมรับได้ โดยสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการโหนดแต่ละรายได้รับค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม และสร้างตลาดแบบไดนามิกตามอุปสงค์และอุปทาน

นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของ Bitcoin ที่จะมากขึ้นตามขนาดของเครือข่าย โดยเขาเน้นย้ำว่ามูลค่าที่ขโมยมักจะน้อยกว่าเงินที่ต้องใช้เพื่อทำการโจมตี

นาย Satoshi Nakamoto ยังได้เตือนถึงความเสี่ยงในการเปิดเผยตัวตนผ่านทาง Bitcoin Address โดยเตือนว่าการใช้ Bitcoin Address ไม่ได้รับประกันว่า IP Address จะไม่ถูกเปิดเผย

การใช้พลังงานของ Bitcoin

นอกจากนี้นาย Satoshi Nakamoto ยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ Bitcoin โดยเขาได้พิจารณาถึงความขัดแย้งระหว่างตลาดเสรีและแบบอนุรักษนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับระบบ Proof-of-Work

แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ถึงคำวิจารณ์เกี่ยวกับพลังงาน แต่นาย Satoshi ก็เน้นย้ำว่า Bitcoin จะประหยัดพลังงานมากกว่าระบบธนาคารแบบเดิม แม้ว่ามันจะใช้พลังงานจำนวนมาก แต่ก็จะน้อยกว่าธนาคารเนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนด้านค่าธรรมเนียมและค่า Infrasturcture ของธนาคาร 

แม้ว่าจะมีการเปิดเผยอีเมลเหล่านี้ แต่ตัวตนที่แท้จริงของนาย Satoshi Nakamoto ก็ยังถูกคาดเดาอย่างต่อเนื่องในวงการคริปโตและบล็อกเชน โดยอีเมลดังกล่าวเคยถูกใช้เป็นหลักฐานในคดีเกี่ยวกับ Crypto Open Patent Alliance และนาย Craig Wright ซึ่งอ้างว่าเป็น Nakamoto 


Source: Finbold