เรื่องเล่าที่แพร่หลายบนโซเชียลเกี่ยวกับเศรษฐีที่ร่ำรวยจากการลงทุนในคริปโต มักมาพร้อมกับคำถามว่า เงินก้อนโตเหล่านี้ส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของพวกเขาอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ปรากฏการณ์แห่งความมั่งคั่ง” หรือ “Wealth effect” ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อผู้คนมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นและมั่นใจที่จะใช้จ่ายมากขึ้น
แม้ว่าปรากฏการณ์นี้จะดูเหมือนน่าสนใจ แต่การวิจัยในสหรัฐฯ กลับพบว่าเงินที่ได้จากสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ถูกใช้จ่ายเหมือนเงินรางวัลลอตเตอรี่และจนถึงตอนนี้ มันได้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอเมริกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากสินทรัพย์ประเภทคริปโตยังคงเฟื่องฟู สิ่งนี้ก็อาจส่งผลกระทบจนทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป
นักวิจัยประมาณการว่า ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนส่งผลให้ครัวเรือนในสหรัฐฯ เพิ่มการบริโภคขึ้นประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยทุกๆ ดอลลาร์ของกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (unrealized gains) จะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 9 เซ็นต์ คิดเป็น 9% ของผลกำไรที่ได้รับทั้งหมด แม้ว่าตัวเลขนี้จะสูงกว่าผลตอบแทนจากตลาดหุ้น แต่ก็ยังน้อยกว่าผลกระทบจากการได้รับรายได้ก้อนโตอย่างการถูกลอตเตอรี ซึ่งหมายความว่าเงินที่ได้จากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้นำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น รถหรู หรือของแบรนด์เนม อย่างที่หลายคนเข้าใจกัน
แม้จะมีภาพลักษณ์ของผู้ที่ร่ำรวยจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มักจะอวดร่ำอวดรวยบนโซเชียลมีเดีย แต่พฤติกรรมการใช้จ่ายจริง ๆ ของกลุ่มคนเหล่านี้กลับแตกต่างออกไป ผลวิจัยพบว่าเศรษฐีคริปโตหลายคนเลือกที่จะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นพื้นที่ที่มีผู้คนให้ความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลสูง และมีการเติบโตเพิ่้มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Darren Aiello ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ Brigham Young University’s Marriott School of Business กล่าวว่า หากผู้คนเปรียบคริปโตเสมือนการพนัน พวกเขาก็ควรที่จะนำกำไรที่ได้ไปใช้จ่ายเหมือนถูกหวย แต่ผลวิจัยกลับชี้ให้เห็นว่าผู้คนมองคริปโตเปรียบเสมือนการลงทุนหุ้นมากกว่า และนำกำไรที่ได้ไปใช้จ่ายเหมือนนักลงทุนที่เล่นหุ้นเช่นกัน
งานวิจัยยังแสดงข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ทุก ๆ 1 ใน 20 ครัวเรือนที่ได้มีการถอนเงินมากกว่า 5,000 ดอลลาร์ออกจากเว็บเทรดนั้น ได้นำเงินมาซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตนเอง โดยข้อมูลดังกล่าวได้เก็บรวบรวมมาจาก Coinbase ระหว่างปี 2018-2023 ทำให้เราเห็นได้ว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นตัวเลือกแรก ๆ เลยที่คนชนชั้นกลางให้ความสนใจเมื่อเริ่มมีฐานะดีขึ้น
Noelle Acheson ผู้เขียนหนังสือ Crypto Is Macro Now ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนคริปโตต่างก็มีเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน โดยนักลงทุนที่มีรายได้น้อยจะไม่มองคริปโตเป็นแหล่งเก็บมูลค่า หรือการรักษาความมั่งคั่ง แต่มองเป็นทางลัดเพื่อความสุขสบายมากกว่า โดยผลตอบแทนที่ได้นั้นสูงกว่าเงินที่ลงทุนไปหลายเท่า ดังนั้นเมื่อพวกเขามีรายได้ขึ้นมา เขาจึงนำมันไปซื้อของชิ้นใหญ่อย่างอสังหาริมทรัพย์
ที่มา : Bloomberg