นักเผยแพร่ความลับของรัฐบาล และผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตนาม Edward Snowden ได้กล่าวถึง Bitcoin ว่าถึงแม้ว่านักลงทุนจะค่อย ๆ หายไปจากวงการคริปโต แต่การใช้งานคริปโตจะไม่หยุดแค่ Bitcoin อย่างแน่นอน
อ้างอิงจากการสัมภาษณ์กับนาย Ben Wizner ผู้อำนวยการโครงการ ACLU ในหัวข้อเรื่อง “Privacy and Technology project” นาย Snowden ได้กล่าวว่า Bitcoin จะทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสากลโดยจะแปลงไปยังคริปโตสกุลอื่นแทน
ความจำกัดและความเชื่อ
นาย Snowden เชื่อว่าในระยะยาว Bitcoin จะมีมูลค่าเป็นอย่างมาก และยังเปรียบเทียบกับเงินกระดาษอีกด้วยโดยเขากล่าวว่าสิ่งที่ต่างกันก็ตือมีความเชื่อหรือศรัทธาหนุนหลัง Bitcoin และ Bitcoin หรือคริปโตตัวอื่น ๆ ก็มีอย่างจำกัดเช่นกันแต่เขาแน่ใจว่า Bitcoin นั้นจะสามารถใช้งานได้ในเวลาใกล้ ๆ นี้โดยมีอยู่สองปัจจัย
อย่างแรกเลยด้วยความที่ Bitcoin จำกัดที่ 21 ล้าน BTC จึงทำให้เกิดการแข่งกันขุดเหมืองจำนวนมาก โดยตอนนี้มันเหลือเพียงประมาณ 10 ล้าน BTC เอง และอย่างที่สองก็คือประชาชนมองว่ามันเป็นการทำธุรกรรมที่สุจริตหรือถูกต้อง อ้างอิงจากนาย Snowden กล่าวว่า ความเชื่อของกรอบการทำงานของคริปโตว่ามันเป็นวิธีการโอนเงินที่แท้จริงบนระบบธนาคารนั้นจะทำให้ Bitcoin รอดจากความตาย โดยเขากล่าวว่า:
“มีความเชื่อที่ว่าเราสามารถเคลื่อนย้ายเงินจำนวนมหาศาลได้ทั่วโลก โดยธนาคารไม่ต้องมีส่วนร่วม และสักวันหนึ่งกองทุน Bitcoin ก็จะหายไป ตราบใดที่มีคนต้องการเคลื่อนย้ายเงินโดยไม่สนใจธนาคารนั้น คริปโตมันก็จะมีมูลค่านั่นเอง”
ดีสำหรับใช้งาน แต่ไม่ดีในการพัฒนา
นาย Snowden ได้อาศัยอยู่ที่รัสเซียหลังจากอ้างว่าตนนั้นได้ทำการลี้ภัยในปี 2013 เขาชื่นชอบใน Bitcoin เพราะว่ามันสามารถสร้างโอกาสและสร้างความน่าจะเป็นไปได้ ได้ทั่วโลก โดยเขายกตัวอย่างว่า:
“ธนาคารในสหรัฐฯ ไม่ทำธุรกรรมทางการเงินให้กับผมแล้วซึ่งนั่นเป็นระบบทางการเงินแบบดั้งเดิม และถ้าวัยรุ่นประเทศเวเนซุเอลาอยากสร้างเว็บไซต์โดยจ้างนักพัฒนาที่อยู่ฝรั่งเศสจะทำอย่างไร เพราะว่ามีอุปสรรคในการชำระเงินแบบดั้งเดิม สิ่งเดียวที่จะช่วยพวกเขาก็คือ Cryptocurrency ถึงแม้ Bitcoin จะไม่ใช่สกุลเงินส่วนตัว แต่มันเป็นสกุลเงินที่มี ‘ความอิสระ’ สกุลแรกนั่นเอง”
ก่อนหน้านี้นาย Snowden ได้กล่าวถึง Bitcoin โดยเขาได้กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่า Bitcoin จะอยู่ได้ตลอดไป” โดยเขากล่าวว่า:
“Bitcoin มันก็ดีแหละ และผมคิดว่ามันจะต้องทนอยู่ไปในลักษณะนี้ได้อีกนาน แต่หากเราลองพิจารณาทีมนักพัฒนาหลักและรวมถึงอัตราการพัฒนา protocol แล้ว เหรียญตัวนี้ต้องพัฒนากันอีกเยอะถึงจะแข่งกับชาวบ้านเขาได้” เขากล่าวต่อ”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น