นักวิเคราะห์ตลาดนามว่า Elliot Prechter ได้ทำการทำนายมูลค่าของ digital currency โดยเฉพาะ Bitcoin ว่าจะมีการร่วงอย่างรุนแรงในอนาคต โดยนาย Prechter เคยทำนายการพึ่งของราคา Bitcoin ไว้เมื่อปี 2010 ได้อย่างแม่นยำในขณะที่เหรียญดังกล่าวมีราคาอยู่แค่ 0.6 ดอลลาร์เท่านั้น
โดยในรายงานของเขาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2017 นั้น นาย Prechter กล่าวว่าเขาได้ใช้เทคนิคที่ชื่อว่า Elliot Wave pattern, รวมกับจิตวิทยา และปัญหาการคอขวดของเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาทำนายว่าตลาดเหรียญคริปโตทั้งหมดจะร่วงอย่างรุนแรง
“พฤติกรรมของราคารวมถึงการตื่นตัวจนแห่กันแย่งไปซื้ออย่างบ้าคลั่งนั้นทำให้เหตุการณ์ Tulip mania ที่เกิดขึ้นเมื่อ 400 ปีที่แล้วกลายเป็นเรื่องเด็กๆไปเลย ความสำเร็จของ Bitcoin นั้นทำให้เหรียญโคลนนิ่งของมัน (altcoin) เกิดขึ้นมาอีก 800 กว่าตัว และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเหรียญไฮเทคพวกนี้ก็ถูกปั่นขึ้นปั่นลงอย่างสนุกสนาน แต่กระนั้น นักลงทุนหลายๆคนก็ยังจะมาพนันในตัวพวกมันอีก”
การทำนายวิกฤติตลาดหุ้นของเขา
นาย Elliot Prechter นั้นเป็นลูกชายของนาย Robert Prechter หรือผู้ก่อตั้งนิตยสาร The Elliot Wave Theorist เมื่อปี 1979 โดยนาย Robert นั้นได้ทำการทำนายหายนะของตลาดหุ้นเมื่อปี 1987 ได้อย่างแม่นยำด้วยเทคนิค Elliot Wave Principle ที่นักเทรดหลายๆคนทราบกันดี แต่ทว่าหลังจากนั้นหลายๆคนก็ตั้งคำถามว่ามันแม่นจริงหรือเป็นแค่โชคช่วย เมื่อเขาทำนายว่าตลาดหุ้นจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในปี 1999 แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นจริง
สำหรับลูกชายของเขา Elliot นั้นก็ได้เคยทำนายการขึ้นของราคาได้อย่างถูกต้องในปี 2010 ในขณะที่ตอนนั้นมันมีราคาแค่ 0.06 ดอลลาร์เท่านั้น
สภาพของราคา Bitcoin ในตอนนี้
การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ในช่วงที่ผ่านมานี้ส่งผลให้นักวิเคราะห์ด้านการเงินก็ต้องออกมาแสดงความคิดเห็นกัน ไปต่างๆนานา โดยอ้างอิงจากนาย Ronnie Moas จากสถาบันวิจัย Standpoint Research เขากล่าวว่าราคาของ Bitcoin อาจจะพุ่งขึ้นไปถึง 5,000 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่เดือนนี้ รวมถึงคุณยุทธวิธีหรือนักเทรด Bitcoin รุ่นเก๋าของประเทศไทยก็ออกมากล่าวแบบเดียวกัน และพิธีการรายการของช่องโทรทัศน์สัญชาติรัสเซีย RT ก็ออกมากล่าวแบบเดียวกัน
นาย Josh Brown หรือ CEO ของบริษัทสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง Ritholtz Wealth Management นั้นกล่าวว่าเขาใช้บริการของเว็บ Coinbase เพื่อซื้อ Bitcoin มาจำนวนหนึ่ง รวมถึงธนาคารระดับโลกอย่าง Goldman Sachs และ Morgan Stanley ก็ออกมาวิเคราะห์ราคาของ Bitcoin ว่ามันจะเป็นไปในด้านบวกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นาย Elliot Preacher ก็ได้ออกมากล่าวว่าความตื่นเต้นของนักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้ามาซื้อ Bitcoin นั้นได้แซงหน้าของเหตุการณ์วิกฤติตลาด tulip ในประเทศเนเธอแลนด์เมื่อช่วงปี 1600 มาแล้ว
“ความบ้าคลั่งนั้นสามารถที่จะเป็นได้ทั้งความบ้าคลั่งและการปฏิวัติในเวลาเดียวกัน”
กล่าวโดยนาย Elliot
ก่อนหน้านี้ในประเทศไทยก็มีนักวิเคราะห์หลายๆคนออกมาพูดในทำนองดังกล่าว โดยเฉพาะเพจลงทุนแมนที่เคยออกมาฟันธงว่าฟองสบู่ของ Bitcoin และ Ethereum กำลังแตกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม โดยมีการรายงานราคาของเหรียญ Bitcoin ที่กำลังตกลงไปที่ระดับ 2,000-1,900 ดอลลาร์เนื่องมาจากฟองสบู่ที่กำลังแตก จนทำให้คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน Bitcoin ในประเทศไทยตั้งข้อสงสัยถึงการวิเคราะห์ดังกล่าวที่ไม่ได้มีการอ้างอิงเนื้อหาเกี่ยวกับ SegWit จนทำให้ทางเพจลงทุนแมนต้องออกมาเขียนบทความอีกหนึ่งบทความขึ้นเพื่ออธิบายเพิ่มเติม
โดยหลังจากการวิเคราะห์ของทางเพจดังกล่าวนั้น ราคา Bitcoin ก็ได้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยไต่ระดับจาก 2,300 มาสู่ 2,500 ดอลลาร์ และจากนั้นก็ขึ้นไปแตะเพดานที่ 2,900 ดอลลาร์ โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคา Bitcoin กำลังถูกซื้อขายที่ 2,789 ดอลลาร์ อ้างอิงจากเว็บ Coinmarketcap
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น