การถอนเงินทุนออกจากตลาดหุ้นและตลาดทองคำนั้นดูเหมือนว่าจะพอเหมาะกับช่วงขาขึ้นของราคา Bitcoin ในช่วงนี้และรวมถึงราคาของเหรียญอื่นๆเช่นกัน ซึ่งดูเหมือนว่านักลงทุนนั้นอาจจะเริ่มรู้ถึงศักยภาพของ Bitcoin แล้วก็เป็นได้
โดยอ้างอิงจากสำนักข่าว CNBC ที่ได้รายงานว่าตลาดหุ้นในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นได้มีอัตราการถอนเงินทุนออกจากตลาดมาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ซึ่งมีเม็ดเงินจำนวนราวๆมากกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ที่ถูกดึงออกมาจากตลาดในช่วงมากกว่า 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการแย่งกันถอนเงินนั้นยังรวมถึงการเลิกถือทองคำและแร่ธาตุอื่นๆด้วย
ราคาแร่ธาตุกำลังตก
ลูกค้านักลงทุนที่ก่อนหน้านี้เคยแลกเปลี่ยนซื้อขายแร่ธาตุต่างเช่นทองคำนั้น ก็มีอัตราการลงทุนที่ลดน้อยลงเช่นกัน โดยจำนวนการเปิด portfolio แบบ 10% ในปี 2013 นั้นลดลงมาเหลือต่ำกว่า 2% แล้วเมื่อช่วงปี 2017 นี้ตามกราฟด้านล่าง
การลงทุนในตัวแร่ธาตุที่เริ่มน้อยลงนั้น ดูเหมือนจะสอดคล้องกับการถอนเงินออกจากตลาดหุ้นโดยรวม แม้ว่าตลาดส่วนใหญ่นั้นจะค่อนข้างเป็นบวกก็ตาม
ก่อนหน้านี้ก็มีนักลงทุนชื่อดังนามว่า Thomas Lee หรือที่ปรึกษาด้านการเงินจาก Fundstrat Global Advisors ที่เคยออกมากล่าวว่าเขามองว่า Bitcoin นั้น “เป็นตัวเลือกการลงทุนที่ดีกว่าทองคำ” ผ่านรายการของ CNBC อีกด้วย
โอกาสการลงทุนในตัวสกุลเงินคริปโต
เทคโนโลยี Blockchain กำลังสร้างโอกาสการลงทุนใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาในปัจจุบัน บริษัทอย่าง LAToken และ MyBit ได้พัฒนาวิธีการสาหรับทำให้ทุกอย่างสามารถลงทุนได้ด้วยเหรียญคริปโต ซึ่งส่งผลให้การลงทุนที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมากๆสามารถที่จะเอื้อมถึงได้ด้วยนักลงทุนระดับย่อย
ระบบ decentralized ของบริษัทเหล่านี้ทำให้นักลงทุนต่างๆสามารถที่จะเข้ามาร่วมลงทุนได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูงเหมือนกับตลาดการลงทุนแบบเก่า อีกทั้งทาง LAToken ยังได้สร้างระบบที่ทำให้หุ้นของบริษัทบลูชิพใหญ่ๆอย่าง Apple, Amazon และอื่นๆ กลายเป็น “เหรียญดิจิตอล” และสามารถที่จะถูกซิื้อผ่านระบบดังกล่าวได้ นาย Valentin Preobrazhenskiy หรือ CEO ของ LaToken ได้กล่าวว่า
“เราสร้างตลาด NASDAQ บนระบบ Blockchain ที่เต็มไปด้วย asset ที่สามารถซื้อขายได้เยอะแยะมาก อีกทั้งยังทำลายกำแพงกั้นระหว่างเหรียญคริปโตกับตลาดเศรษฐกิจจริง ทั้งหมดนี้ทำให้ลูกค้าของเราได้ประโยชน์ในด้านค่าธรรมเนียมที่ถูกลง, การซื้อขายที่เร็วขึ้น และอื่นๆอีกมาก”
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
ระบบหุ้นที่ถูกนำมาผูกกับเหรียญนั้นจะมีความเสถียรมากแค่ไหนก็คงต้องดูกันต่อไป
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น