ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ตลาด Jens Nordvig ได้ออกมาทำนายว่าโวลลุ่มการซื้อขายเหรียญ cryptocurrency นั้นจะ “แซงหน้า” โวลลุ่มการซื้อขายหุ้น Apple หรือหุ้นที่ถูกซื้อขายกันมากที่สุดแบบรายวัน
นาย Jens หรือผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Exante Data ได้ออกมาทำนายผ่าน note ของเขาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และถูกนำมาอ้างอิงในสำนักข่าว CNBC ในภายหลังว่า
“โวลลุ่มการซื้อขายของ Cryptocurrency นั้นมีมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์โดยเฉลี่ยต่อวัน และมันจะแซงหน้าโวลลุ่มการซื้อขายต่อวันของหุ้นที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก หรือ Apple (4 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน)”
ปัจจุบัน โวลลุ่มการซื้อขายหุ้น Apple มีอยู่ที่ราวๆ 4 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน ทำให้มันกลายเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องมากที่สุด และที่น่าสนใจก็คือ การซื้อขาย cryptocurrency ด้วยเงินสดนั้นได้เพิ่มขึ้นประมาณ 8 เท่าในปี 2017 เพียงแค่ปีเดียว และนาย Jens คาดว่ามูลค่าตลาดรวมของเหรียญคริปโตทั้งหมดจะ “แซงหน้า” ของ Apple ไปได้ในอนาคต
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าโวลลุ่มการซื้อขายเหรียญ cryptocurrency ที่แตะ 11 พันล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงมาแล้ว แต่ค่าเฉลี่ยของ 30 วันก็ยังต่ำกว่า 3 พันล้านดอลลาร์อยู่ ซึ่งสาเหตุหลักๆนั้นน่าจะเป็นเพราว่าโวลลุ่มนั้นมักจะลดลงในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ยกตัวอย่างเช่น ก่อนหน้านี้โวลลุ่มซื้อขายเหรียญคริปโตนั้นแตะ 2.5 พันล้านดอลลาร์ และมี Bitcoin แค่เหรียญเดียวที่มีโวลลุ่มทะละ 500 ล้านดอลลาร์
แม้ว่าเหรียญ cryptocurrency และหุ้นของ Apple นั้นจะเป็นสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน แต่หากเกิดขึ้นจริงละก็ นี่จะเป็น milestone หลักสำคัญของตลาดเหรียญคริปโตเลยก็ว่าได้ โดยก่อนหน้านี้ทาง Goldman Sachs เคยออกมากล่าวว่า cryptocurrency นั้น “ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้วที่จะหันหลังให้กับมัน”
อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ เมื่อเดือนที่แล้วมูลค่าตลาดรวมของเหรียญ cryptocurrency นั้นได้แซงหน้าของ PayPal ไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์การกลับตัวของตลาดในช่วงเดือนกันยายนนี้ส่งผลให้ PayPal กลับมานำหน้าอีกครั้ง
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
แต่กระนั้น นาย Jens ก็ยังไม่ได้เข้าข้าง cryptocurrency แบบร้อยเปอร์เซนต์ “เราไม่เชื่อว่าจะมีใครก็ตามที่จะสามารถทำนายได้ด้วยความมั่นใจ ว่าในจุดๆนี้เหรียญคริปโตจะมีอนาคตที่สดใส และมีสถานะเป็นสกุลเงินที่ให้การยอมรับกันทั่วโลกในระยะยาว” รายโดย CNBC อ้างอิงจากนาย Jens “แต่เราจะใช้ข้อมูลจากตลาดเหรียญ cryptocurrency ที่มีการซื้อขายกันอย่างต่อเนื่องมาใช้ track เม็ดเงินที่หมุนเวียนอยู่ทั่วโลกตามสมควร”
ภาพจาก Bloomberg
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น