ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จับมือธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ธนาคารกลางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (CBUAE) และสถาบันศึกษาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (PBC DCI) เพื่อนำเหรียญ CBDC 4 สกุล คือ ไทย-จีน-ฮ่องกง-UAE มาทดสอบการโอนและการแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศในธุรกรรมจริงเป็นครั้งแรกของโลก
การทดสอบดังกล่าวถือเป็นการก้าวเข้าสู่เฟสที่ 2 แล้วสำหรับการทดสอบ CBDC ของ ธปท. ในโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า Multiple Central Bank Digital Currency Bridge (mBridge) ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่พัฒนาต่อยอดมาจากโปรเจกต์ Inthanon-LionRock ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2564
การทดสอบโปรเจกต์ mBridge เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม ถึง 23 กันยายน 2565 โดยครอบคลุมการทำธุรกรรม 3 ประเภท ได้แก่
- การออกเหรียญ CBDC (issuance) และการแลกคืนเหรียญ CBDC (redemption)
- การโอนเหรียญ CBDC ระหว่างประเทศผ่านธนาคารพาณิชย์
- การแลกเปลี่ยน CBDC สองสกุลระหว่างธนาคารพาณิชย์ (Cross-border exchange of CBDC)
ทั้งนี้มีธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมโปรเจกต์ mBridge ทั้งหมด 20 แห่ง จากทั้ง 4 ประเทศ โดยประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ของไทยจำนวน 5 แห่งด้วยกัน
ผลการทดสอบพบว่า การทำธุรกรรมบนระบบ mBridge ด้วย CBDC สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการโอนเงินระหว่างประเทศได้เทียบเท่าระบบในปัจจุบัน เนื่องจากลดการพึ่งพาธนาคารตัวแทนต่างประเทศ (correspondent banks) และยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีก คือ
- ลดระยะเวลาการโอนเงินระหว่างประเทศจนเหลือแค่ไม่กี่วินาที (จากเดิมเฉลี่ย 3-5 วัน)
- ลดต้นทุนธุรกรรมการโอนเงิน
- ลดความเสี่ยงด้านการชำระดุล (settlement risk)
- เอื้อต่อการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการชำระเงินระหว่างประเทศ
ในเฟสต่อไป โปรเจกต์ mBridge จะมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาระบบและคุณสมบัติต่าง ๆ ให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมกับคำนึงถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องสำหรับการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศ โดยสามารถอ่านรายละเอียดของโปรเจกต์ mBridge เพิ่มเติมได้ที่ mBridge
ที่มา: bot