Microsoft บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเผยกำลังเริ่มดำเนินการพัฒนาซูเปอร์ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลจากปกติที่ใช้เวลา “10 ปี” ให้เหลือไม่เพียง “เสี้ยววินาที”
ด้วยพลังการประมวลผลที่ก้าวกระโดดครั้งสำคัญนี้มีศักยภาพในการปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับภาคการเงินและอุตสาหกรรม Crypto ด้วยความสามารถในการประมวลผลอัลกอริทึมที่ซับซ้อนอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบตามมาในวงกว้าง
อย่างไรก็ดีบทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจความพยายามอันทะเยอทะยานของ Microsoft และนี่คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับตลาด crypto
ปลดปล่อยขุมพลังของคอมพิวเตอร์ควอนตัม
การคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัมจะควบคุมหลักการของกลศาสตร์ควอนตัมเพื่อทำการคำนวณในสิ่งที่คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมทำไม่ได้
คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมสามารถเก็บข้อมูลเป็นเลขฐานสอง (bits) ซึ่งแทนค่า 0 หรือ 1 แต่ในทางกลับกัน คอมพิวเตอร์ควอนตัมใช้บิตควอนตัมหรือคิวบิต ซึ่งสามารถแทนได้ทั้ง 0 และ 1 พร้อมกัน เนื่องจากคุณสมบัติที่เรียกว่าการซ้อนทับ คุณสมบัตินี้ทำให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้พร้อมๆ กัน ซึ่งนำไปสู่ความเร็วในการประมวลผลที่เร็วขึ้นแบบทวีคูณ
Quantum Leap ของ Microsoft
บริษัท Microsoft ได้ตระหนักถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของคอมพิวเตอร์ควอนตัม จึงตัดสินใจที่จะลงทุนมหาศาลในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ ฝ่ายวิจัยควอนตัมของบริษัท Microsoft Quantum นั้นนับว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของความก้าวหน้าด้านคอมพิวเตอร์ควอนตัม ตอนนี้ Microsoft มีเป้าหมายที่จะสร้าง Super Quantum Computer ที่สามารถดำเนินการคำนวณ ที่ปกติคอมพิวเตอร์ดั้งเดิมต้องใช้เวลานานถึง 10 ปีถึงจะคำนวณได้เสร็จสมบูรณ์ แต่ Super Quantum Computer สามารถคำนวณได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที
ตลาด Crypto และช่องโหว่
เป็นที่ทราบกันดีว่าตลาด crypto ต้องพึ่งพาอัลกอริทึมในการเข้ารหัส ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และใช้ในกระบวนการสร้างเหรียญ Crypto ใหม่จากการขุด
และในกรณีของ Bitcoin เหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกต้องอาศัยการแก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ยุ่งยากซับซ้อน เช่น อัลกอริทึมที่สอดคล้องกันในระบบฉันทามติแบบ proof-of-work เพื่อให้สร้างระบบรักษาความปลอดภัยและป้องกันการฉ้อโกง แต่ทว่าอัลกอริทึมเหล่านี้ต้องใช้การคำนวณสูงและต้องการพลังสูงในการประมวลผล
ผลกระทบต่อตลาด Crypto:
การถือกำเนิดของ Super Quantum Computer มีศักยภาพที่จะคุกคามหรือบ่อนทำลายตลาด crypto ในหลายวิธีด้วยกัน ได้แก่:
ช่องโหว่การเข้ารหัส: มีความเป็นไปได้ที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจทำลายอัลกอริธึมการเข้ารหัสที่รักษาความปลอดภัยของ Crypto ในปัจจุบัน สิ่งที่เสี่ยงที่สุดคืออัลกอริทึมของการเข้ารหัสซึ่งอิงจากการเข้ารหัสจาก public-key ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย รวมถึง RSA และ Elliptic Curve Cryptography (ECC) ทั้งนี้ด้วยความสามารถของคอมพิวเตอร์ควอนตัมในการแยกตัวประกอบจำนวนมากอย่างรวดเร็วอาจทำให้อัลกอริธึมเหล่านี้เก่าล้าสมัย และมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี
มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุง: ในทางกลับกันการประมวลผลแบบควอนตัมยังสามารถมีช่วยในการปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้กับตลาด crypto ด้วยการเข้ารหัสหลังจากที่มีเทคโนโลยีควอนตัม ซึ่งใช้อัลกอริทึมที่โจมตีด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้ยากกว่า สามารถพัฒนาและนำมาปรับใช้ สิ่งนี้จะช่วยให้มีการยกเครื่องระบบการเข้ารหัสแบบเดิม ๆ ที่มีอยู่ใหม่ แและทำให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในตลาดคริปโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในระยะยาว
การพัฒนาอัลกอริทึม: การเพิ่มขึ้นของคอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจทำให้นักวิจัยและนักพัฒนาพบอัลกอริทึมการเข้ารหัสรูปแบบใหม่ที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมไม่สามารถโจมตีได้ และสิ่งนี้อาจนำไปสู่การเกิดเหรียญ Crypto ใหม่ ๆ ที่ต้านทานต่อ คอมพิวเตอร์ควอนตัมได้
ความผันผวนของตลาด: ความเชื่อเพียงอย่างเดียวที่มักถูกเกี่ยวกับความก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์ควอนตัมก็คือ เรื่องผลกระทบต่อเสถียรภาพของตลาด crypto ซึ่งนักเทรดและนักลงทุนอาจตอบสนองต่อภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมโดยการปรับลดตำแหน่ง Position ซึ่งนำไปสู่ความผันผวนของตลาดที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
สรุป
การที่บริษัทเทคโนยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ก้าวเข้ามาพัฒนา Super Quantum Computer อาจทำให้เกิดการปฏิวัติวิธีการประมวลผลข้อมูล โดยนำเสนอพลังและความเร็วในการคำนวณอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในขณะที่ผลกระทบต่อตลาด crypto ยังคงไม่แน่นอน เป็นที่ชัดเจนว่าการคำนวณด้วยควอนตัมอาจเป็นความท้าทายที่สำคัญต่ออัลกอริธึมในการเข้ารหัสที่มีอยู่ใน cryptocurrency ทั้งนี้ความต้องการโซลูชันการเข้ารหัสที่ทนทานต่อควอนตัมและมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด
ในขณะที่การพัฒนาของคอมพิวเตอร์ควอนตัมกำลังดำเนินไป ตลาด crypto จะต้องมีการปรับตัวรวมถึงมีวิวัฒนาการต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เพื่อให้แน่ใจว่ามันยังคงมีศักยภาพและความปลอดภัยในยุคใหม่ของการประมวลผลนี้
คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ บทความนี้ จัดทำขึ้นด้วยการใช้ข้อมูลจากการ Generated AI ผ่านทาง ChatGPT