ตามรายงานของบริษัทวิจัยคริปโต K33 Research (เดิมคือ Arcane Research) ระบุว่า Bitcoin แสดงให้เห็นถึงความเสถียรของมูลค่าที่หาได้ยาก โดยความผันผวนของ Bitcoin ในช่วง 5 วันที่ผ่านมาอยู่ต่ำกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่าง เช่น Nasdaq, S&P 500 และทองคำ
ในขณะเดียวกัน ความผันผวนของราคา Bitcoin ในช่วง 30 วันที่ผ่านมาก็อยู่ใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งระดับดังกล่าวคงอยู่เพียงแค่ 8 วันในเดือนมกราคม 2019
ทั้งนี้จากสถิติความผันผวนของราคา Bitcoin ในอดีต บริษัท K33 ได้กล่าวในรายงานการวิจัยที่เผยแพร่ในวันนี้ด้วยว่า “เมื่อความผันผวนของ Bitcoin ลดน้อยลง ช่วงที่มีความผันผวนสูงจะตามมาเสมอ” ซึ่งสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าช่วงเวลาในปัจจุบันที่ Bitcoin มีความผันผวนต่ำนั้นอาจสิ้นสุดลงในไม่ช้า และเราอาจเห็นการแกว่งตัวของราคาอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในอนาคต
“แรงกดดันด้านความผันผวนของตลาดกำลังจะถึงจุดสูงสุด และการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันที่มีนัยสำคัญก็กำลังใกล้เข้ามา ส่วนที่ยุ่งยากคือการพยายามคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร” Vetle Lunde นักวิเคราะห์ระดับอาวุโสของ K33 กล่าวในรายงาน นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่าอาจจะมีปัจจัยบางอย่างที่สามารถเป็น “ตัวเร่ง” ให้เหตุการณ์นั้นมาถึงเร็วขึ้นก็เป็นได้
ตัวเร่งความผันผวนของ Bitcoin
ตามการวิเคราะห์ของ Lunde เหตุการณ์ที่อาจเป็นตัวเร่งจะรวมถึงการตอบสนองจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) เกี่ยวกับการยื่นขอก่อตั้งกองทุน Bitcoin ETF ซึ่งอาจนำไปสู่ความผันผวนของ Bitcoin
นอกจากนี้ ตัวเร่งที่สามารถเพิ่มความผันผวนของ Bitcoin ยังรวมถึงเว็บเทรดแบบ decentralized ที่กำลังประสบปัญหาอย่าง Curve Finance ซึ่งกำลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านการชำระบัญชีของบริษัท (liquidation risk) โดย Lunde กล่าวว่า “การชำระบัญชีเหล่านี้อาจส่งผลกระทบด้านลบอย่างมากต่อตลาด และทำให้ความผันผวนสูงขึ้น”
“เหตุการณ์เหล่านี้ยากที่จะคาดเดาล่วงหน้า แต่ในทำนองเดียวกัน การตัดสินคดีระหว่าง Grayscale กับ SEC อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็นตัวกระตุ้นความผันผวนของตลาดด้วยเช่นกัน” Lunde กล่าวเสริม
ที่มา: theblock