เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ตลาดคริปโตได้เผชิญกับเหตุการณ์สุดพลิกผันที่ทำให้นักเทรดและนักลงทุนทั่วโลกประหลาดใจไปพร้อมกัน เพราะจู่ ๆ นักลงทุน Ethereum รายใหญ่คนหนึ่ง ตัดสินใจเทขาย 13,871 ETH ในครั้งเดียวที่ราคา 1,577 ดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 21.87 ล้านดอลลาร์ หรือราว ๆ 797 ล้านบาท
การเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดในครั้งนี้ ถูกเปิดเผยโดย LookOnChain บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลนี้ก็ได้สั่นสะเทือนไปทั่วตลาดคริปโตในเวลาต่อมา
“บ้ามาก เจ้ามือเท 13,871 ETH ที่ราคา 1,577 ดอลลาร์ เมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว! เพื่อเงิน 21.87 ล้าน USDC” LookOnChain ระบุบนแพลตฟอร์ม X “เจ้ามือคนนี้ซื้อ 32,000 ETH (39.9 ล้านดอลลาร์) จาก Bitfinex เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2021 (ก่อนช่วงตลาดกระทิง) ซึ่งตอนนั้นราคา ETH ซื้อขายกันอยู่ที่ 1,239 ดอลลาร์”
“เจ้ามือคนนี้ไม่ยอมขายตอนราคาพุ่งทะลุ 4,700 ดอลลาร์ ทำไมต้องเทตอนนี้?” LookOnChain ตั้งข้อสังเกต
ผลกระทบที่ปรากฏขึ้นทันทีหลังการเทขาย Ethereum จำนวนมหาศาลในครั้งนี้ คือราคาของ ETH ได้ลดลงเล็กน้อย โดยตามข้อมูลจาก TradingView การเทขายของเจ้ามือรายดังกล่าวส่งผลให้ราคา Ethereum ลดลงประมาณ 2.5% จากราคาในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนการเทขาย
การตัดสินใจของเจ้ามือ
การตัดสินใจเทขาย ETH จำนวนมากของเจ้ามือปริศนารายนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เลย แต่สิ่งสำคัญที่ทุกคนควรพิจารณา คือ “เจ้ามือ” มักเป็นบุคคลหรือองค์กรที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก ดังนั้นการกระทำของพวกเขาจึงมักจะมีมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในตลาด
ถึงแม้ตัวตนของนักลงทุนรายนี้จะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่การตัดสินใจเทขาย 13,871 ETH ได้ทำให้กระเป๋าเงินของเขาถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทั่วทั้งตลาดคริปโต
การขาย ETH จำนวนมากดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับราคาของ Ethereum และตลาดคริปโตโดยรวม เพราะการที่ราคาลดลงชั่วคราวนั้นสามารถส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ในวงกว้าง เนื่องจากมูลค่าของ Ethereum มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ดังนั้นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของราคา Ethereum จึงมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในตลาด
ในอีกนัยหนึ่ง การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจไม่ได้หมายถึงผลกระทบด้านลบเสียทีเดียว เพราะบางครั้งพฤติกรรมของเจ้ามืออาจเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มของตลาดในวงกว้างก็เป็นได้ โดยการตัดสินใจเทขายอาจได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยหลายประการ ตั้งแต่ความต้องการสภาพคล่อง ไปจนถึงการคาดการณ์แนวโน้มตลาดขาลง
โดยสรุปแล้ว นักลงทุนควรมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นโอกาสในการประเมินกลยุทธ์การลงทุนของตนเองอีกครั้ง และไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยอิงจากความผันผวนในระยะสั้นเพียงอย่างเดียว เพราะการพิจารณามุมมองในระยะยาวถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน
ที่มา: thecurrencyanalytics