บริษัทวิเคราะห์ บล็อกเชน Chainalysis กล่าวว่ามูลค่าของสินทรัพย์ crypto ที่อาชญากรไซเบอร์ขโมยไปในปี 2023 ลดลงมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2022 สาเหตุหลักมาจากการแฮ็กที่พุ่งเป้าไปที่แพลตฟอร์ม DeFi ที่ลดลงอย่างมาก
ในรายงานใหม่ Chainalysis ระบุว่าแฮกเกอร์ขโมยเงินสินทรัพย์ไป 1,100 ล้านดอลลาร์จากโปรโตคอล DeFi ในปี 2023 ลดลงจากปี 2021 ที่ 2,300 ล้านดอลลาร์ และ 3,100 ล้านดอลลาร์ในปี 2022
จำนวนการแฮ็กบน DeFi ก็ลดลง 17.2% เมื่อเทียบเป็นปีต่อปีและค่ามัธยฐานของการสูญเสียต่อการแฮ็ก DeFi ก็ลดลง 7.4%
“การแฮ็กโปรโตคอล DeFi ส่วนใหญ่ผลักดันให้เกิดการขโมยสินทรัพย์คริปโตเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2021 และ 2022 ตามที่เราเห็นโดยอาชญากรไซเบอร์ขโมยสินทรัพย์จากการแฮ็ก DeFi มากกว่า 3,100 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 แต่ในปี 2023 แฮกเกอร์ขโมยสินทรัพย์ไปเพียง 1,100 ล้านดอลลาร์จากโปรโตคอล DeFi ซึ่งมีมูลค่าลดลง 63.7% เมื่อเทียบปีต่อปี”
รายงานของ Chainalysis อ้างอิงจาก Mar Gimenez-Aguilar หัวหน้าสถาปนิกด้านความปลอดภัยและนักวิจัยของบริษัทรักษาความปลอดภัยบล็อกเชน Halborn ระบุว่ามูลค่าความเสียหายที่ลดลงจากการถูกขโมยบนแพลตฟอร์ม DeFi บ่งชี้ว่าผู้ให้บริการกำลังปรับปรุงความปลอดภัยของ smart contract แฮ็กเกอร์ยังมีโปรโตคอลในการซุ่มโจมตีน้อยลงด้วย เนื่องจากกิจกรรมบน DeFi โดยรวมในปีที่แล้วลดลง
“เราไม่สามารถพูดได้อย่างแน่ชัดว่าการแฮ็ก DeFi ที่ลดลงนั้นมีสาเหตุหลักมาจากหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้นหรือการลดลงของกิจกรรม DeFi โดยรวม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมันก็ต้องรวมทั้งสองอย่างนี้เข้าด้วยกัน”
ที่มา : DailyHodl