<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สส.สหราชอาณาจักรเรียกร้องให้พิจารณากฎหมายลิขสิทธิ์อีกครั้ง หลัง AI เป็นที่นิยมมากขึ้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) นั้นกำลังได้รับการจับตามองจากรัฐบาลมากยิ่งขึ้น ที่ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่ดี แต่มันอาจก็ส่งผลต่ออุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างเช่นคริปโตได้

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Baroness Stowell ได้เสนอให้สหราชอาณาจักรปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ใหม่อีกครั้ง โดยเน้นไปที่การจัดการเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์และการแข่งขันในตลาดของ AI ที่มากขึ้นหลังทางรัฐบาลไม่มีความชัดเจน

“ในด้านลิขสิทธิ์ รัฐบาลได้จัดตั้งการหารือที่นำโดยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาไป ก่อนที่จะยกเลิกการประชุมไปในเวลาต่อมา ความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมของรัฐมนตรีนั้นมีประโยชน์ แต่ขั้นตอนต่อไปยังไม่ชัดเจน”

โดย Stowell ได้แสดงความผิดหวังที่รัฐบาลขาดความมุ่งมั่นในการปรับปรุงมาตรการกำกับดูแลมาตรฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI รวมถึงการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ขาดความชัดเจนและไม่ได้รับฟังเสียงจากประชาชน

“เราขอย้ำข้อเสนอแนะของเราว่าการแข่งขันในตลาดมีวัตถุประสงค์เชิงนโยบายที่ชัดเจน ที่ควรอยู่ภายในกระบวนการออกแบบและทบทวนนโยบายและมาตรฐานใหม่ และอยู่ภายใต้การวิจารณ์ที่มีโครงสร้างจากทั้งภายในและภายนอก”

ซึ่งหลังจากการตอบสนองของรัฐบาลสหราชอาณาจักรต่อรัฐสภาเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้สัญญาณว่ารัฐบาลกำลังเตรียมที่จะปฏิรูปกฎระเบียบ AI ใหม่อีกครั้งในเร็วๆ นี้ และถ้ากฎหมายดังกล่าวได้รับการปรับปรุง ก็มีโอกาสที่โครงการคริปโตที่เกี่ยวข้องกับ AI อาจได้รับผลกระทบไปด้วย

เพราะตอนนี้สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักรและตำรวจได้รับอนุญาตให้ “ยึด หยุด และทำลาย” สกุลเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาชญากรรมโดยไม่ต้องมีการจับกุมอย่างเป็นทางการแล้ว

ในขณะที่ทางรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย James Cleverly ได้กล่าวว่าอาชญากรจะไม่สามารถแสวงหาผลกำไรจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมายได้อีกต่อไป แล้วอ้างว่าการอาชญากรรมเกี่ยวกับการระดมทุนคริปโตที่เพิ่มขึ้นเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาได้รับอำนาจใหม่นี้

“การปฏิรูปเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นคงของชาติของเราด้วย องค์กรก่อการร้ายเช่น Daesh เป็นที่รู้กันว่าระดมทุนผ่านธุรกรรมคริปโต ซึ่งอำนาจที่ได้รับการปรับปรุงเหล่านี้จะช่วยให้หน่วยงานของเราสามารถริบทรัพย์สินของพวกเขาได้ง่ายขึ้น”

ที่มา: Cointelegraph