Troy Paredes อดีตกรรมาธิการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานกำกับดูแลในชุดปัจจุบันว่าพวกเขาเข้มงวดกับสินทรัพย์ดิจิทัลใดที่ถือว่าเป็นหลักทรัพย์มากจนเกินไป
โดยในงานประชุม TokenizeThis ปี 2024 ที่ไมอามีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา Paredes กล่าวว่าประธาน SEC คนปัจจุบันอย่าง Gary Gensler จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับสินทรัพย์ภายใต้กรอบทางกฎหมาย โดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลที่อาจเข้าข่ายเป็นการลงทุนและควรได้รับการควบคุม
อย่างไรก็ตาม การกระทำของ SEC ในตอนนี้ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า ขอบเขตอำนาจศาลที่ SEC ควรปฏิบัติอย่างจำเป็นต้องจัดการกับสินทรัพย์ดิจิทัลในตอนนี้นั้นมาเกิดไปหรือไม่
“ฉันหมายความว่า ถ้ามันไม่ใช่หลักทรัพย์ มันก็อยู่นอกขอบเขตของกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางในเขตอำนาจศาลของ SEC … ผมเชื่อว่าคณะกรรมาธิการได้มีมุมมองที่กว้างขวางมากเกี่ยวกับสิ่งที่ถือเป็นการรักษาความปลอดภัยภายใต้การทดสอบ Howey”
Paredes ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า หลายคนทั้งในและนอก SEC ดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปที่การบังคับให้โทเค็นบางตัวเป็นหลักทรัพย์ให้ได้โดยไม่สนวิธีการ และดูเหมือนว่าจะมีความไม่แน่นอนมากมายในกลุ่มบริษัทที่พยายามปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ
และด้วยการกระทำของ SEC ทำให้มีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานถึงการกระทำของพวกเขา ทั้งการบังคับบริษัทคริปโตในประเทศ โดยเฉพาะการยื่นฟ้อง Binance, Kraken และ Ripple รวมถึงการประกาศ Wells ให้กับ Robinhood ด้วย
ส่งผลให้ฝ่ายนิติบัญญัติ จำเป็นต้องจำกัดอำนาจของ SEC เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลลง หลังเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาลงมติให้ SEC ห้ามยุ่งเกี่ยวกับธนาคารที่ดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้า ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่าเขาวางแผนที่จะยับยั้งร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่
ที่มา: Cointelegraph