ถ้ากล่าวถึงราคาที่ผันผวนในโลก Cryptocurrency เราสามารถคาดเดาได้ว่า อาจเกิดจากบุคคลสำคัญด้านการเงินที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านดีและไม่ดี แต่จริงแล้วมันเป็นแบบนั้นจริงหรือ?
ทางสยามบล็อกเชนได้ยกสถานการณ์ของคนดัง ๆ ในวงการด้านการเงินมาเปรียบเทียบกับราคา Bitcoin ในช่วงเวลานั้น ๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเมื่อพวกเขาเหล่านั้นออกมาพูดเรื่อง Bitcoin หรือ Cryptocurrency แล้วจะมีผลต่อราคาหรือไม่
นาย Jamie Dimon ประธานและ CEO ของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่
นาย Jamie Dimon หรือประธานและ CEO ของสถาบันทางการเงินบริษัท JP Morgan Chase ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญทางด้านการเงิน และมีข่าวเกี่ยวกับตัวเขาที่ออกมากล่าวถึง Bitcoin อยู่บ่อย ๆ
อ้างอิงจากข่าวเมื่อปีที่แล้ว เมื่อนาย Jamie กล่าวว่า Bitcoin คือเรื่องหลอกลวง โดยมีการขู่ว่าจะทำการไล่นักเทรดในบริษัทออกไป และสิ่งที่น่าสนใจก็คือกระดานราคาของ Bitcoin ในช่วงนั้นก็ร่วงทันที แต่อาจรวมไปถึงตัวแปรอื่น ๆ ที่ดูเหมือนว่าจะมีผลกับตลาดเช่น ความกลัวเรื่องที่รัฐบาลประเทศจีนอาจจะปิดเว็บเทรดซื้อขายเหรียญคริปโดในประเทศ ก็เป็นได้
อาจเป็นไปได้ว่านาย Jamie Dimon ผู้ที่คร่ำหวอดใน Wallstreet นั้นมีอิทธิพลต่อนักเทรด Cryptocurrency และยังเป็นบุคคลที่คอยชี้นำตลาดว่าจะเป็นตลาดขาขึ้นหรือขาลงก็เป็นได้
นาย Warren Buffett เจ้าพ่อทางการเงินของโลก
นาย Warren Buffett หรือนักลงทุนชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงระดับโลก เขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และซีอีโอของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์นั่นเอง
เขาเป็นบุคคลที่เคยออกมากล่าวถึง Bitcoin ว่า “มันคือฟองสบู่ของแท้” โดยเขากล่าวเกี่ยวกับ Bitcoin ว่า:
“คุณไม่สามารถให้มูลค่า Bitcoin ได้ เพราะว่ามันไม่ใช่ asset ที่มีมูลค่าอะไรเลย”
ซึ่งตอนนั้นราคา Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 4,300 ดอลลาร์ในช่วงเดือนตุลาคมปี 2017 ทว่าหลังจากที่นาย Buffett ออกมาแสดงความคิดเห็นนั้น ราคาของ Bitcoin ก็พุ่งสูงสุดในประวัติในช่วงนั้นที่ 6,000 ดอลลาร์ในทันที ซึ่งแตกต่างจากกรณีของนาย Jamie Dimon โดยสิ้นเชิง
CEO ของเว็บเทรด Binance ยังเคยกล่าวว่า “นาย Warren Buffett ไม่เข้าใจใน Cryptocurrency แม้แต่น้อย”
เป็นไปได้หรือไม่ที่นาย Buffett จะมีอิทธิพลต่อโลก Cryptocurrency ในทางตรงกันซึ่งอาจจะเหมือนกับกรณีจรวดของสยามบล็อกเชน
นาย George Soros “พ่อมดการเงินตัวแสบ”
นาย George Soros ผู้ที่มีฉายาว่า “พ่อมดการเงินตัวแสบ” สำหรับคนไทย เพราะเขาเป็นผู้ที่เคยเข้ามาโจมตีเงินบาทและอีกหลาย ๆ สกุลเงินในทวีปเอเชีย จนทำให้เกิดวิกฤตการเงินที่ส่งผลให้ชาวไทยต้องเผชิญความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจในปี 2540 นั้น ดูเหมือนว่าจะมีอิทธิพลไม่แพ้บุคคลทั้งสองก่อนหน้านี้
นาย George Solos เคยกล่าวถึง Cryptocurrency ในงาน World Economic Forum โดยเขากล่าวว่า “ในขณะนี้ Bitcoin ถูกใช้เพื่อการเลี่ยงภาษีซะส่วนมาก และพวกผู้นำในประเทศระบอบเผด็จการก็ใช้มันเพื่อที่จะซ่อนเงินนอกประเทศ เมื่อกี้นี้ ได้มีการประชุมซึ่งแทนที่จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับสภาพชีวิตในประเทศรัสเซีย พวกเขากลับเอาแต่คุยเรื่อง Bitcoin เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกผู้นำให้ความสนใจ”
โดยหลังจากที่เขากล่าวถึง Cryptocurrency นั้นราคา Bitcoin ก็ลดลงไป 41 เปอร์เซ็นต์ อ้างอิงจากเว็บ Bloomberg อย่างทันที
จากข่าวที่ว่าเขาจะเข้ามาเล่นวงการคริปโต ทำให้วงการ Cryptocurrency ตื่นตัวอีกครั้ง โดยนักลงทุนด้านคริปโตได้ให้ความสนใจทันทีเนื่องจากเขาเคยกล่าวว่า Bitcoin คือ “ฟองสบู่” นั่นเอง
นาย Peter Thiel หรือผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Paypal
นาย Peter Thiel หรือผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Paypal เป็นนักลงทุนใน Cryptocurrency และยังคอยกล่าวถึง Bitcoin ในแง่บวกอยู่เสมอ
นาย Thiel ได้ “ประเมินค่า” Bitcoin และเปรียบเทียบสกุลเงินดิจิทัลกับทองคำว่า “ถ้า Bitcoin จบลงด้วยการมีมูลค่าเทียบเท่าทองคำ แปลว่ามันก็ต้องมีศักยภาพที่หลงเหลืออยู่แน่”
โดยหลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าซื้อ Bitcoin เป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์ ในต้นเดือนมกราคมปี 2018 และทำให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 13.5% ณ เวลาในตอนนั้น จนมีมูลค่าแตะที่ 15,017 ดอลลาร์ในทันที
อาจเป็นเพราะ Paypal เป็นบริษัทด้านการชำระเงิน เลยทำให้นักลงทุนหันมาสนใจกับความคิดเห็นของนาย Peter Thiel ก็เป็นได้
นาย Tom Lee ผู้ร่วมก่อตั้งและนักวิเคราะห์จาก Fundstat
นาย Tom Lee หรือผู้ร่วมก่อตั้งและนักวิเคราะห์จาก Fundstat มักออกมาคาดการณ์ถึงราคา Bitcoin เป็นประจำ
นาย Tom Lee เคยออกมาทำนายว่า “Bitcoin จะมีราคา 25,000 ดอลลาร์ในปี 2018” และราคาของ Bitcoin ก็พุ่งสูงขึ้นจาก 11,000 ดอลลาร์เป็น 12,700 ดอลลาร์ หลังจากที่เขาได้แสดงความคิดเห็น
นักวิเคราะห์ด้าน Bitcoin คนนี้ก็สามารถนำราคา Bitcoin ได้เช่นกัน
สรุป
ดูเหมือนว่าผู้มีอิทธิพลทางการเงิน อาจจะสามารถกำหนดทิศทางของราคา Bitcoin หากดูจากความสัมพันธ์ของราคาและแหล่งข่าวที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ผู้อ่านก็ไม่ควรที่จะเชื่อในคำพูดของพวกเขาทั้งหมด 100% เนื่องจากว่ามันเป็นความคิดเห็นส่วยตัวเท่านั้น
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น