<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ชี้เป้า!  8 สิ่งสุดแปลกที่สามารถซื้อด้วยคริปโตได้จริง ในปี 2025

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ยุคที่คริปโตเคอร์เรนซีถูกใช้ เพื่อการเทรดหรือการลงทุนได้ผ่านไปแล้ว ปัจจุบันคุณสามารถนำคริปโตเคอร์เรนซี มาใช้ซื้อของได้เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของหรูหรา หรือของที่คนอาจไม่คาดคิดมาก่อน เช่น เกาะส่วนตัว ม้าแข่ง บังเกอร์หรู หรือแม้กระทั่งอวัยวะเทียมชีวภาพ ซึ่งเมื่อการยอมรับคริปโตแพร่หลายมากขึ้น ผู้คนก็เริ่มหันมาใช้สินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อครอบครองของหายากและมีมูลค่าสูง 

ในบทความนี้ ทางสยามบล็อกเชนจะพาคุณไปดู 8 สิ่งสุดแปลกที่คุณสามารถซื้อได้ด้วยคริปโต  

1. แคปซูลเวลาแบบดีเอ็นเอ

การใช้คริปโตเพื่อเก็บรักษาดีเอ็นเอ หรือมรดกดิจิทัลอาจฟังดูแปลกใหม่ แต่ปัจจุบันมีบริการที่เปิดโอกาสให้ผู้คน สามารถชำระเงินด้วย Bitcoin, Ethereum หรือคริปโตอื่น ๆ เพื่อเก็บรักษาข้อมูลทางพันธุกรรมหรือความทรงจำส่วนตัวไว้ในธนาคารชีวภาพหรือระบบกระเป๋าดิจิทัลแบบกระจายอำนาจ

แพลตฟอร์มเหล่านี้ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี บล็อกเชน (blockchain) เพื่อรับประกันความปลอดภัยและความถูกต้องของบันทึกความเป็นเจ้าของ โดยข้อมูลจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย และจะสามารถเข้าถึงได้ เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ทศวรรษ หรือกี่ศตวรรษก็ตาม

บริการเหล่านี้ ได้รวมเอาความปลอดภัยของบล็อกเชน เข้ากับการชำระเงินด้วยคริปโต ทำให้เกิดเป็น “แคปซูลเวลา” ในรูปแบบใหม่ ที่ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อกับคนรุ่นหลัง ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลของเราได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย

2. AI Agent อิสระ

ที่มาภาพ : analyticsvidhya

ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 AI Agent อิสระกำลังมีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการจัดการการชำระเงินคริปโตด้วยตนเองโดยไม่ต้องอาศัยคนกลาง ซึ่งเรียกว่า “agentic payments”

ตัวอย่างเช่น ระบบ AI Payment ของ Aeon ที่ทำให้ AI Agent สามารถเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งาน, เปรียบเทียบราคา, ซื้อของ, และทำธุรกรรมคริปโตข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บไซต์, QR Code, หรือแม้แต่ระบบ NFC ในร้านค้าปลีก

ระบบเหล่านี้ ทำงานข้ามหลายบล็อกเชน เช่น BNB Chain และ Solana ขณะเดียวกันผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอย่าง Mastercard ก็กำลังสร้างเลเยอร์การแปลงเป็นโทเค็น (tokenization) ที่ปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่า AI Agent จะทำงานภายใต้การอนุญาตที่ผู้ใช้กำหนดอย่างเคร่งครัด รวมถึงรักษาความโปร่งใส และอยู่ในกรอบการกำกับดูแล

การพัฒนาเหล่านี้ บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอนาคต เมื่อ AI, บล็อกเชน และสัญญา smart contract ทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการค้าดิจิทัลที่รวดเร็ว, อัตโนมัติมากขึ้น, และลดการพึ่งพาความเชื่อใจระหว่างกัน

3. การเก็บรักษาร่างกายด้วยการแช่แข็ง

การรักษาร่างกายแบบแช่แข็ง หรือ Cryonics เป็นการเก็บรักษาร่างกายหรือสมองของมนุษย์ไว้ที่อุณหภูมิต่ำมาก หลังจากที่เสียชีวิตตามกฎหมายแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อรอให้วิทยาศาสตร์ในอนาคตก้าวหน้าเพียงพอที่จะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ, การบาดเจ็บ, หรือความเสื่อมสภาพจากอายุ ที่ทำให้การเสียชีวิตในวันนี้ สามารถฟื้นคืนชีพในอนาคตได้

บริษัทอย่าง Alcor Life Extension Foundation เสนอบริการนี้ และยอมรับการชำระเงินด้วย Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกันอย่างน่าสนใจ เพราะทั้งการรักษาแบบแช่แข็งและคริปโตต่างก็ดึงดูดผู้ที่เชื่อในเทคโนโลยีมากกว่าระบบเก่า ๆ

อย่างไรก็ตาม หากคุณวางแผนที่จะฟื้นคืนชีพในอนาคต คุณก็คงไม่สามารถใช้เช็คในการชำระเงินได้อีกต่อไป การใช้คริปโตจึงเป็นวิธีที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนที่ยาวนานและมีความเสี่ยงสูงเช่นนี้

4. รถหรู

 ที่มาภาพ : garageliving

การซื้อรถหรูด้วยคริปโตเคอร์เรนซีไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ปัจจุบันแบรนด์รถหรูระดับโลกอย่าง Ferrari ได้เริ่มยอมรับการชำระเงินด้วยคริปโตในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ขณะที่ตัวแทนจำหน่าย Lamborghini บางแห่งก็เปิดรับสกุลเงินดิจิทัลเช่นกัน

ในขณะที่ Post Oak Motor Cars ในเมืองฮูสตัน ก็ยอมรับคริปโต สำหรับรถยนต์ Bentley และ Bugatti โดยใช้บริการของ BitPay ส่วน Ferris Cars ในแอฟริกาใต้ก็รับชำระเงินด้วยคริปโต สำหรับรถยนต์เช่นกัน 

นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจำหน่ายอื่น ๆ ที่เริ่มรับคริปโตแล้ว เช่น Exclusive Automotive Group ในวอชิงตัน ดีซี, Infiniti ในซานโฮเซ่ และ Puente Hills Mitsubishi ในแคลิฟอร์เนีย

ทั้งนี้ตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่จะร่วมมือกับผู้ให้บริการอย่าง BitPay หรือ CoinPayments เพื่อแปลงคริปโตเป็นเงินสดทันที เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา อย่างไรก็ตาม บางแห่งก็อาจอนุญาตให้มีการชำระเงินแบบ wallet-to- wallet โดยตรงได้

5. ม้าแข่งและ NFT ของสัตว์จริง

ที่มาภาพ : polkacity

คริปโตเคอร์เรนซีกำลังขยายอิทธิพลเข้าสู่วงการม้าและแซงค์ชัวรีสัตว์ โดยแพลตฟอร์มอย่าง Hoofborn เปิดโอกาสให้คุณสามารถซื้อความเป็นเจ้าของแบบแบ่งส่วนของม้าแข่งจริง ได้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้แทนที่จะเป็นการเดิมพัน คุณสามารถเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของม้าตัวนั้นได้โดยตรง

นอกจากนี้ ยังมีเทรนด์ที่กำลังเติบโตคือ การผูกสัตว์จริงเข้ากับ Non-Fungible Token (NFT) หรือที่เรียกว่า Cryptozoology ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่เชื่อมโยงสัตว์จริง เช่น สัตว์เลี้ยงแปลกตา สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ หรือปศุสัตว์เข้ากับ NFT

โทเค็นเหล่านี้ สามารถนำไปใช้เพื่อสนับสนุนความพยายามในการอนุรักษ์สัตว์ สร้างความตระหนักรู้ หรือแม้แต่เป็นตัวแทนสิทธิ์ในการดูแลได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ผู้ถือ NFT อาจได้สิทธิ์ในการสนับสนุนแซงค์ชัวรีสัตว์ป่า หรือได้รับโอกาสใกล้ชิดกับสัตว์แบบส่วนตัว

6. ศัลยกรรมความงามและอุปกรณ์ช่วยชีวิตขั้นเทพ

ปัจจุบันคลินิกความงามและศูนย์การแพทย์ชั้นนำหลายแห่ง เริ่มรับชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซีแล้ว ตัวอย่างเช่น คลินิกใน Beverly Hills, ศัลยแพทย์ใน Miami และคลินิกใน Atlanta ซึ่งให้บริการด้านความงามหลากหลายประเภท เช่น ดูดไขมัน, โบท็อกซ์ หรือแม้กระทั่งปลูกผม

นอกจากนี้ การแพทย์ทางเลือกอย่าง Biohacking ก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะใน ดูไบ ซึ่งเป็นผู้นำในด้านการรักษาแบบขั้นสูงที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น การให้ NAD+ (nicotinamide adenine dinucleotide), การรักษาด้วยเปปไทด์, เอ็กโซโซม (exosome) และสเต็มเซลล์

ด้วยนโยบายที่เปิดกว้างและเป็นมิตรกับคริปโตของดูไบ ทำให้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากศูนย์การรักษาขั้นสูงในเมืองนี้ จะเริ่มยอมรับการชำระเงินด้วยคริปโต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า สินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมการแพทย์และความงามมากขึ้นเรื่อย ๆ

7. อสังหาริมทรัพย์

ที่มาภาพ  : wsj

ในปี 2025 การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ด้วยคริปโตกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในลอสแองเจลิส ที่ Christie’s International Real Estate ได้จัดตั้งแผนกคริปโตขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH)

Christie’s ได้ทำธุรกรรมการขายบ้านหรูหลายแห่งในแคลิฟอร์เนียตอนใต้สำเร็จแล้ว นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มอย่าง Crypto Real Estate และ RealOpen ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาอสังหาริมทรัพย์ที่รับคริปโตได้ทั่วโลก รวมถึงเกาะส่วนตัว และทำการซื้อขายได้โดยตรง หากกฎหมายท้องถิ่นไม่อนุญาตให้โอนคริปโตโดยตรง แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็มีบริการที่ช่วยแปลงคริปโตเป็นเงินสดได้อย่างรอบคอบ

ในขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มอย่าง Propy ได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ AI มาใช้ เพื่อจัดการกระบวนการ escrow และกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินบนเครือข่าย เพื่อให้ขั้นตอนการปิดการขายเป็นไปอย่างง่ายดาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีบริษัทอย่าง Ledn และ Salt Lending ที่เสนอบริการสินเชื่อบ้านโดยใช้คริปโตเป็นหลักประกันให้กับผู้ซื้อที่ถือครอง Bitcoin

8. นาฬิกาและเครื่องประดับหรูหรา

ที่มาภาพ : winstonscrownjewelers

ปัจจุบัน การชำระเงินด้วยคริปโตสำหรับนาฬิกาและเครื่องประดับหรูเป็นเรื่องที่แพร่หลายมากขึ้น โดยร้านค้าออนไลน์อย่าง CW Sellors ในสหราชอาณาจักร ยอมรับการชำระเงินด้วยคริปโตหลายสกุล เช่น BTC, ETH และ USDC 

ส่วน Ace Jewelers ก็อนุญาตให้ชำระเงินด้วยคริปโตได้ไม่จำกัดจำนวนสำหรับนาฬิกาและเครื่องประดับระดับไฮเอนด์ในยุโรป

นอกจากนี้ ยังมี Crypto Emporium ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ผู้สะสมสามารถซื้อนาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet ด้วย Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ

ในขณะเดียวกัน BitPay ก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้การซื้อขายด้วยคริปโตเกิดขึ้นได้จริงในร้านเพชรและร้านนาฬิกาจำนวนมากทั่วโลก

อนาคตของการชำระเงินด้วยคริปโตจะเป็นอย่างไร

ที่มาภาพ : medium

กรณีการใช้งานที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ปัจจุบันหลายประเทศ เช่น เอลซัลวาดอร์ และบางรัฐในสหรัฐฯ อย่าง ยูทาห์ ได้เริ่มยอมรับ Bitcoin สำหรับการชำระภาษีแล้ว ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยบางแห่งในสวิตเซอร์แลนด์และสหรัฐฯ ก็กำลังทดลองรับชำระค่าเล่าเรียนด้วยคริปโตเช่นกัน

เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมดแล้ว แม้ว่าคริปโตอาจไม่ได้เข้ามาแทนที่สกุลเงินแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่ก็เห็นได้ชัดว่า มันกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คน ทั้งในด้านการใช้จ่าย, การลงทุน, และการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ทั่วโลก

ที่มา : cointelegraph