<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ในอนาคตคริปโตจะสามารถนำมาใช้จ่ายได้จริงหรือไม่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถ้ากล่าวถึง Cryptocurrency แล้วละก็ นอกจากเรื่องของเทคโนโลยี Blockchain การเทรดแหรือการขุดแล้วนั้น ทุกคนก็ต้องคิดถึงเรื่องที่จะนำพวกมันมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแทบทั้งสิ้น

วันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา คือวัน Pizza Day ของชาวคริปโต ซึ่งวันดังกล่าวเกิดมาจากเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งนำ Bitcoin จำนวน 10,000 BTC ไปซื้อ Pizza สองถาด ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมที่ได้รับการฮือฮาเป็นอย่างมาก แล้วก็ถือว่าเป็นวันสำคัญของชุมชนคริปโตเลยก็ว่าได้

คำถามสำหรับตอนนี้ก็คือ ในอนาคตเราสามารถนำคริปโตไปใช้งานจริงได้หรือไม่?

ความเร็วในการทำธุรกรรม

แน่นอนว่าความเร็วในการทำธุรกรรมถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกที่ทุกคนนึกถึง เพราะเมื่อเราซื้อของเราคงไม่มีการยืนรอให้เงินโอนเข้าบัญชี หรือพ่อค้าแม่ค้าคงไม่รอเราห้าถึงสิบนาทีกว่าเงินจะโอนเข้ามาบัญชีของพวกเขา

Bitcoin หรือเหรียญราชาของชาวคริปโตในขณะที่เขียนบทความนี้นั้น มีความเร็วในการทำธุรกรรมที่ยังถือว่าช้ากว่ามากเมื่อนำไปเทียบกับเหรียญอื่นเช่น Bitcoin Cash หรือ Ripple ( XRP) โดยเฉพาะเมื่อปลายปีที่แล้ว ช่วงที่ราคา Bitcoin ไปแตะถึง 19,000 ดอลลาร์ การ Confirmation ของ Bitcoin นั้นทำได้เชื่องช้าเป็นอย่างมาก ส่งผลให้บางธุรกรรมก็รอข้ามเดือนเลยก็มี

ในทางตรงกันข้าม Ripple (XRP) เป็นเหรียญที่มักเคลมว่าโอนเงินได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับธนาคารที่จะต้องชำระเงินข้ามประเทศ ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ได้เป็นพันธมิตรกับหลาย ๆ ธนาคารหรือผู้ใช้บริการชำระเงินเช่น MoneyGram อีกด้วย

Lightning Network อาจเป็นความหวังในการทำธุรกรรมอันรวดเร็วของ Bitcoin ก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ก็มีนักพัฒนาหลายคนกำลังหาคนทางที่จะนำ Lightning Network มาใช้กับ Bitcoin อยู่เรื่อย ๆ

ความปลอดภัย

สิ่งที่หลายคนคำนึงไม่แพ้กันคือความปลอดภัยในการทำธุรกรรม เช่นเมื่อเราซื้อของออนไลน์ ก่อนที่จะชำระเงินก็จะมีวิธีการตัวเลือกชำระเงินต่าง ๆ เช่น โอนเงินผ่าน Mobile Banking, โอนเงินผ่านตู้ ATM, ชำระผ่าน Counter Service, บัตรเครดิต ซึ่งหลาย ๆ ก็ต้องเลือกก่อนว่าวิธีไหนเหมาะและวิธีไหนปลอดภัยกับเรา

แน่นอนว่า Cryptocurrency ที่อยู่บนระบบ Blockchain นั้นมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง เพราะว่าไม่มีตัวกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อไม่มีธนาคารเข้ามาควบคุม จะไม่มีใครคอยสอดส่องเงินในบัญชีเรา ผู้ใช้งานจึงสามารถเชื่อมั่นในความปลอดภัยของ Cryptovurrency ได้

ความรู้

เป็นความจริงที่แน่นอนว่าเรื่อง Cryptocurrency นั้นถือเป็นสิ่งใหม่ ที่หลาย ๆ คนยังไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Blockchain บ้าง Cryptocurrency บ้างและหลาย ๆ อย่าง จนทำให้มีการเปิดคอร์สสอนพื้นฐาน Blockchain ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะฟรีเหลือจ่ายเงินก็ตาม…

จริง ๆ แล้วรัฐบาลสามารถ Educated ให้กับบุคคลทั่วไปพ่อค้าหรือแม่ค้าได้ ซึ่งและจะกระตุ้นทำให้พวกเขาอยากที่จะใช้คริปโตเป็นช่องทางในการชำระเงิน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลและชุมชนคริปโตพวกเราต้องคอยให้ความรู้กับพวกเขา

การยอมรับ

ร้านค้าทั่วไปในประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนาหรือปรับตัวการชำระเงินด้วยคริปโตสักเท่าไร เพราะเจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการ ไม่ได้สนใจในเรื่องของเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามา Disrupt ในเทคโนโลยีเดิม ๆ และเรื่องของอายุอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะทุกวันนี้หากไม่รับคริปโต พวกเขาก็ยังสามารถขายของได้ปกติ

แต่หากทุกร้านเปิดใจ และยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นสกุลเงินดิจิทัล แน่นอนว่าก็จะทำให้อุตสาหกรรมนี้เจริญเติบโตออกไปอีก เพราะเพียงแค่เรารู้ Address ของร้านค้า เราก็สามารถชำระเงินได้เลยทันที โดยที่เราอาจนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หรือเล่นโทรศัพท์มือถือก็ชำระเงินได้เลย

ในไทยก็มีร้านอาหารที่ยอมรับการชำระเงินผ่านคริปโตเช่นกัน และในอนาคตก็มีแนวโน้มที่อีกหลายร้านจะยอมรับการชำระเงินผ่าน Cryptocurrency อีกด้วย

สรุป

สุดท้ายอนาคตที่ทุกคนจะนำคริปโตมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ไหม ก็ขึ้นอยู่กับสังคมรอบตัวของเรา ว่าพวกเขาเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังเข้ามา กฏหมายในแต่ละประเทศ กฏข้อบังคับต่าง ๆ ที่คอยเอื้ออำนวยในการใช้ Cryptocurrency ในประเทศนั่นเอง

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น