<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รวมเหตุการณ์ Cryptocurrency สำคัญประจำปี 2564 ที่คนไทยจำไม่ลืม!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หากยังคงจำกันได้มีเหตุการณ์มากมายที่น่าสนใจในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (cryptocurrency) ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา โดยทาง siamblockchain ได้รวบรวมเหตุการณ์ในประเทศไทยที่พูดทีไรคนไทยจำไม่ลืม

Bitcoin ราคา 1,000,000 บาท

เริ่มต้นด้วยต้นปีในวันที่ 3 มกราคม 2564 BTC/THB ได้ทำราคาสูงถึง 1 ล้านบาทต้อนรับศักราชใหม่ และทำให้ชาวไทยจำนวนมากสนใจการลงทุนใน cryptocurrency มากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นคำฮอตฮิตที่หากใครไม่รู้จักคำว่า “Bitcoin” หรือ “Crypto” ถือว่าตกยุคตกสมัยกันเลยทีเดียว 

ขอบคุณรูปจาก : TradingView

หลังจากนั้นไม่นาน Bitcoin ได้ทำราคาสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ราคา 2,129,998.87 บาท ในวันที่ 14 เมษายน 2564 ก่อนจะทำราคาร่วงลงกว่า 50% ในเดือนพฤษภาคม

ขอบคุณรูปจาก : TradingView

Dogecoin ทำราคาสูงสุดตลอดกาล

คงไม่มีใครที่ไม่เคยรู้จักเหรียญหมามีมอันดับ 1 ของโลกและอันดับ 1 ของประเทศไทยอย่าง DOGE ที่ราคาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงต้นปีที่ 0.14 บาท สู่จุดสูงสุดตลอดกาลที่ 23.43 บาท ซึ่งส่งผลให้ชุมชนเหรียญมีมดังกล่าวเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก และร่วมใจกันติดแฮชแท็ก #DOGETOTHEMOON ไปทั่วโลก แม้ว่าปัจจุบันราคาของ DOGE จะลดลงมาอยู่ที่ 5.12 บาทแล้วก็ตาม แต่ก็นับได้ว่าเป็นตำนานที่สร้างเศรษฐีหน้าใหม่ให้กับปี 2564 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ขอบคุณรูปจาก : TradingView

ZMT ทำราคาสูงสุดตลอดกาล

ขอบคุณรูปจาก : CoinGecko

ZMT เป็นโทเคนดั้งเดิมของกระดานเทรดชาวไทย Zipmex ซึ่งได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ลิสต์บนกระดานเทรดจนทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับราคา 165.66 บาท ก่อนที่จะปรับฐานร่วงลงตาม BTC ในเดือนพฤษภาคม

LUNGTOO Coin

ในช่วงกลางปีได้มีตำนานหน้าใหม่เกิดขึ้นมาจากชื่อเหรียญที่คล้ายกับชื่อของนายกรัฐมนตรี “ลุงตู่” หรือ “LUNGTOO” ซึ่งมีมือดีสร้างไว้บน BSC โดยมันมีฟีเจอร์หลักทั้ง RFI fork ที่สามารถทำการ auto-burn เพื่อล็อคสภาพคล่อง และระบบ auto-farming ได้ แต่ความแตกต่างหลัก ๆ นั้นก็คือทางทีมจะทำการนำเอาภาษีการทำธุรกรรมเพื่อไปใช้บริจาคให้กับผู้คนที่ต้องการมัน! โดยจะเป็นการโฟกัสไปที่การส่ง auto-yield กลับไปหาผู้ที่ยากไร้ โดย LUNGTOO นั้นมีจุดประสงค์เพื่อใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการกุศล และกลุ่มชุมชนที่ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสนี้ได้

อย่างไรก็ตามปัจจุบันเหรียญดังกล่าวได้มีระดับราคาร่วงลงเป็นอย่างมากและได้ปิดตัวลงไปแล้วในเดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งสร้างความฮือฮาเป็นวงกว้างอย่างมากในชุมชนคริปโทเคอร์เรนซี่ของคนไทย

ตำนาน DAI 500

ขอบคุณรูปจาก : TradingView

ผ่านมาเพียง 5 วันตำนานใหม่ก็ได้ก่อเกิดขึ้นเมื่อราคาโทเคน DAI ซึ่งเป็น stablecoin ได้มีการปั่นราคาจากเดิม 34 บาทไปสู่ 500 บาทโดยใช้ระยะเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ทั้งนี้ยังได้ก่อเกิดตำนาน DAI99 ที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในกลุ่ม Bitcoin Thai Club โดยผู้ใช้งาน Facebook นามว่า “อุเทน พรมส้มซ่า” ได้โพสต์ข้อความว่าเขาได้ซื้อ DAI ไว้ที่ราคา 99 บาทจำนวน 1,007 โทเคน ซึ่งตีเป็นมูลค่าประมาณเกือบ 1 แสนบาท

ตำนาน Bitkub 

หากใครที่เพิ่งเข้ามาเทรดในกระดานเทรดประเทศไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาคงจะทราบกันเป็นอย่างดีว่า Bitkub กระดานเทรดอันดับ 1 ของประเทศไทยเคยล่มในวันที่ 18 มกราคา 2564 เนื่องจากมีปริมาณผู้ใช้งานจำนวนมาก ทำให้ ก.ล.ต. มีมติให้บริษัทส่งแผนการแก้ไขให้ ก.ล.ต. และดำเนินการแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน ได้แก่ แก้ไขการดำเนินการตามระบบงานต่าง ๆ ได้แก่ ระบบการซื้อขาย ระบบการฝากถอนเงินและสินทรัพย์ดิจิทัล ระบบการแสดงข้อมูลทรัพย์สินลูกค้า ระบบการให้บริการติดต่อลูกค้า ระบบการรับลูกค้า การยืนยันและพิสูจน์ตัวตนลูกค้า (KYC) และการเปิดบัญชี ระบบการจัดการเรื่องร้องเรียน และการจัดการบุคลากรให้เหมาะสมและเพียงพอกับปริมาณลูกค้าและธุรกรรม โดยส่งผลให้นักลงทุนชาวไทยจำนวนมากขวัญหนีดีฟ่อกันไปตาม ๆ กัน

ขอบคุณรูปภาพจาก : droidsans

ต่อมาเพียงไม่นานในวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 Bitkub ได้ทำการแจกจ่ายแอร์ดรอปและเปิดตัวโทเคนของกระดานเทรดที่มีชื่อว่า Bitkub Coin (KUB) เป็นครั้งแรกโดยได้เปิดตัวที่ราคา 30 บาทก่อนจะร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 12.50 บาท และกลับมาทำราคาสูงสุดไว้ที่ 580 บาทหลังจากมีข่าวการร่วมมือกับ SCB10X, The Mall Group และพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ อีกมายมาย

ขอบคุณรูปจาก : TradingView

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุการณ์การทำระดับราคาสูงสุดที่ 580 บาทของ KUB ก็ได้มีคำท้าทายจากผู้ใช้งานเฟสบุ๊คนามว่า “Narumit Phoyen”ในกลุ่มชุมชนคริปโต โดยได้กล่าวเป็นข้อความไว้ว่า 

“ถ้าเหรียญ KUB ถึง 500 บาทก่อนสิ้นปีนี้ ผมจะไปแก้ผ้าวิ่งหน้าบริษัท Bitkub เลย!”

โดยเหรียญ KUB ได้วิ่งทำราคาแตะ 500 บาทในวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาก่อนสิ้นปีตามคำบอกเล่าของผู้ใช้งานดังกล่าวทำให้มีผู้คนจำนวนมากถวงถามถึงบุคคลที่หายไป รวมถึงท็อป จิรายุส ที่ประกาศตามหาคนหาย พร้อมทั้งติดแฮชแท็ก #ถ้ามาจริงขอสีเขียวครับ

อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานดังกล่าวไม่ได้ลืมและหนีหายแต่อย่างใดและยืนยันที่จะไปวิ่งรอบบริษัท Bitkub พร้อมถ่ายวิดิโอมาเป็นหลักฐานให้กับชุมชนคริปโต ซึ่งทำให้ชุมชนต่างยกตำนานให้กับบุคคลดังกล่าวว่า “คนจริง KUB” ส่งท้ายปี 2564

ขอบคุณรูปจาก : Narumit Phoyen

สุลต่าน NFT

มาสาย NFT Game หรือ GameFi กันบ้าง ทั้งนี้มาจากผู้ใช้งานที่ชื่อว่า Peerawat Na Bangchang หนึ่งในผู้ลงทุน NFT Game ที่ชุมชนหลายคนต่างเรียกเขาว่า “สุลต่าน” หรือ “ต่าน” โดยมีที่มาจากการลงทุนในเกมคริปโตด้วยเงินจำนวนมากในหลายเกม เช่น CryptoMine FarmerWorld และ CCity ซึ่งระดับราคาเหรียญของแต่ละเกมในปัจจุบันนั้นลดต่ำลงเป็นอย่างมากหากเทียบกับจุดสูงสุดประวัติการณ์

ทั้งนี้สุลต่านได้เข้าซื้อกลุ่ม CryptoCars/CPan/Cguards Thailand ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ซึ่งทำให้เป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมากในชุมชนคริปโทเคอร์เรนซี่ที่ลงทุนใน CCity พร้อมตั้งกฎว่า “กฏมีข้อเดียว งด Fudเกมส์ Ccar Cpan Cguard กาวได้อย่างเดียวเท่านั้น เกมส์อื่นผมไม่สน”

ขอบคุณภาพจาก : Peerawat Na Bangchang

อย่างไรก็ตามปัจจุบันสุลต่านยังคงวนเวียนอยู่ใน CCity และสร้างความบันเทิงรวมถึงให้ความรู้แก่ชุมชนอย่างต่อเนื่องพร้อมสรรสร้างกิจกรรมต่าง ๆ มากมายเพื่อสร้างแรงกระตุ้นของชุมชนเกมอย่างต่อเนื่อง

ท้ายที่สุด Siamblockchain ได้รวบรวมเหตุการณ์ในตำนานที่คนไทยจำไม่ลืมในวงการคริปโตประจำปี 2564 ซึ่งเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับตำนานใหม่ในปี 2565 ซึ่งหวังว่าเราจะได้เจอกับตำนานใหม่ต่าง ๆ ที่เข้ามาสั่นสะเทือนวงการคริปโตประเทศไทยและชุมชน