<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดุดัน ไม่เกรงใจตลาดหมี ! Tether ฟาดกำไรกว่า 2.3 หมื่นล้านบาทในไตรมาสที่ 4 ปี 2022

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Tether Holdings บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเหรียญ Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง USDT เพิ่งรายงานผลประกอบการ ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 โดยกำไรสุทธิประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท ทำให้ Tether ก้าวข้ามปีที่แล้วมาด้วยเงินสำรองส่วนเกินสูงถึง 960 ล้านดอลลาร์ และสินทรัพย์รวมอย่างน้อย 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์

แม้ว่าปี 2022 จะเป็นปีที่ทำลายล้านอุตสาหกรรม Crypto ทั้งหมด แต่กำไรสุทธิของ Tether ยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 และทำให้บริษัทสามารถลดเงินกู้ยืมจากหลักประกันลงไปได้ถึง 300 ล้านดอลลาร์ และแสดงให้เห็นกว่า 58% ของเงินสำรองมาจากตั๋วเงินคลังของสหรัฐฯ

ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า บริษัทข้ามผ่านในปีที่แล้วมาด้วยตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (Commercial Paper) ที่เป็นศูนย์ และมีทุนสำรองส่วนเกินอยู่ที่ 960 ล้านดอลลาร์ ด้วยสินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์  

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี Paolo Ardoino กล่าวว่า รายงานฉบับล่าสุดนั้นทำให้ Tether ต้องการที่จะก้าว “ขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยความโปร่งใส” โดยเขากล่าวว่าบริษัทได้พิสูจน์ให้เห็นถึง “ความมั่นคงและความยืดหยุ่น” ของบริษัทท่ามกลางปีแห่งความวุ่นวายที่มีการล้มละลายและเหตุการณ์ black swan มากมาย

“ไม่เพียงแต่เราสามารถดำเนินการไถ่ถอนมูลค่ากว่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ได้อย่างราบรื่นในช่วงเหตุการณ์วุ่นวายของปีเท่านั้น แต่ในทางกลับกัน Tether ได้ออกเหรียญ USDT ที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องและการยอมรับ Tether

ไตรมาสที่แล้ว Tether สามารถทำกำไรได้มากกว่า 700 ล้านดอลลาร์ เมื่อนำมารวมกับเงินทุนสำรอง เราภูมิใจในการที่ Tether ยังคงเป็นแรงผลักดันในการสร้างความไว้วางใจในอุตสาหกรรม Crypto ขึ้นมาใหม่ และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนร่วมงานและคู่แข่งของเราต่อไป” Ardoino กล่าวสรุป

การล่มสลายของ Tether อาจก่อให้เกิดหายนะของ Crypto

บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเหรียญ Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก จนบางคนมองว่าความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น อาจหมายถึงการ “จบเกม” สำหรับอุตสาหกรรม Crypto ทั้งหมด

สื่อข่าว The Wall Street Journal เผยแพร่รายงานเมื่อปลายปี 2022 โดยยืนยันว่า Tether ได้ “ให้ลูกค้ายืมเหรียญของตัวเองมากขึ้น แทนที่จะขายเป็นสกุลเงิน hard currency แบบล่วงหน้า” โดยอธิบายว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้บริษัทเกิดปัญหาสภาพคล่องอย่างรุนแรง

Tether ตอบโต้อย่างรวดเร็วโดยกล่าวว่าเงินกู้ยืมนั้น “มีหลักทรัพย์ค้ำประกันแบบ overcollateralized และจะมีการ backstopped โดย Tether หากจำเป็น”

อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยสื่อหลักอีกครั้งเมื่อกลางเดือนธันวาคม จนทำให้ Tether ต้องสัญญาว่าจะลดเงินทุนสินเชื่อในทุนสำรองในรูปแบบสินเชื่อให้เหลือศูนย์ภายในสิ้นปีนี้

ที่มา: cryptopotato