เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังคงพบเห็นการจ้างงานอย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคม ส่งผลให้เกิดอัตราการว่างงานลดลงเหลือเพียง 3.5% ในสถานการณ์เดียวกันสัญญาณดังกล่าวได้บอกถึงความตึงเครียดของตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจทำให้ธนาคารสหรัฐฯ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนหน้า
การจ้างงานนอกภาคการเกษตรพุ่งสูงขึ้นกว่า 236,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว โดยกระทรวงแรงงานระบุในรายงานการจ้างงานว่าพบเห็นการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นจริง
การชะลอตัวการจ้างงานบางส่วนสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตที่ลดลงอย่างมากจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์
อัตราการว่างงานปัจจุบันลดเหลือเพียง 3.5% จาก 3.6% ในเดือนกุมพาพันธ์ โดยรายได้ต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้นราว 0.3% ในเดือนมีนาคมแต่อย่างไรก็ตามนั่นทำให้กาปรับขึ้นค่าจ้างรายปีกลับลดลงเหลือเพียง 4.2% จาก 4.6% เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของ FED
ตลาดการเงินส่วนใหญ่ยังเอนเอียงไปทางธนาคารสหรัฐฯ ที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ตามการประชุมที่จะถึงในวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้ตามรายงานของ CME Group
การสำรวจจาก Institute for Supply Management ในสัปดาห์นี้เสนอการประเมินตลาดแรงงานที่ตกต่ำใหม่ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของรัฐบาลซึ่งแสดงให้เห็นว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างลดลงต่ำกว่า 10 ล้านคน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี แม้ว่าในเดือนนั้นจะมีตำแหน่งงานว่าง 1.7 ตำแหน่งสำหรับผู้ว่างงานทุกคนก็ตาม
ตลาดแรงงานคาดว่าจะคลายตัวลงอย่างมากตั้งแต่ไตรมาสที่สอง เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงซึ่งเกิดจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น
“ธุรกิจขนาดเล็กและครัวเรือนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากขึ้น ธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านอาหารและบาร์ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตของงานตั้งแต่การฟื้นตัวจากโรคระบาด”
นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดการณ์ว่าธุรกิจต่าง ๆ อาจจะบีบให้ FED เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจดิ่งลงสู่ภาวะถดถอยตามคำสันนิษฐาน
อย่างไรก็ตามการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจเป็นไปไม่ได้ตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีการปล่อยสินเชื่ออย่างเข้มงวดโดยธนาคารซึ่งหมายความว่าสินเชื่อต่าง ๆ อาจถูกจำกัดมากยิ่งขึ้น