Thomas Clausi นักเทรด Crypto ชาวฝรั่งเศส วัย 21 ปี ถูกปรับเป็นเงินจำนวนกว่า 3.4 ล้านยูโร หรือประมาณ 125 ล้านบาท และถูกตัดสินจำคุก 18 เดือน ด้วยข้อหาใช้ Bitcoin ซื้อรถหรู เนื่องจากโมร็อกโกถือว่าการใช้งาน Crypto เป็นการกระทำผิดกฎหมายของประเทศ
โมร็อกโกเป็นหนึ่งในประเทศที่ตัดสินให้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเศร้าที่นักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติจำนวนมากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศนี้อย่างจริงจัง และเป็นอีกครั้งที่เราเห็นว่าการไม่รู้กฎหมายไม่ใช่ข้อแก้ตัวในการละเมิดกฎหมาย
Thomas Clausi ถูกจับกุมในฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 เนื่องจากใช้ BTC เพื่อซื้อรถหรู ซึ่งศุลกากรโมร็อกโกถือว่าเป็นธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย
Clausi ต้องเข้าสู่กระบวนการต่อสู้ทางกฎหมาย เนื่องจากหญิงชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในเมือง Casablanca แจ้งความว่า ตัวเขานั้นฉ้อโกง โดยเธอเล่าว่าได้ขายรถ Ferrari มูลค่า 400,000 ยูโร ให้กับ Clausi ในสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเขาได้จ่ายเงินครบเต็มจำนวน และเงินก็เข้ากระเป๋าของเธอเมื่อเดือนเมษายน 2021 โดยในขณะนั้น Bitcoin มีราคาอยู่ที่ 60,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นกลับออกมายื่นเรื่องร้องเรียนในเดือนกรกฎาคมของปีเดียวกันนั้น เพราะราคา Bitcoin ลดลงจนเหลือเพียง 30,000 ดอลลาร์ในเดือนนั้น จนนำไปสู่การสืบสวน และท้ายที่สุด Clausi ก็ถูกตัดสินโทษในเดือนตุลาคม 2021 ในข้อหา “ฉ้อโกง” และ “ชำระเงินด้วยสกุลเงินต่างประเทศในดินแดนโมร็อกโก”
สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ของ Clausi น่าสนใจยิ่งขึ้น คือ เมื่อถึงเวลาตัดสิน มูลค่าของ Bitcoin ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทว่าผู้พิพากษากลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ดังนั้น Clausi จึงถูกส่งเข้าเรือนจำในเดือนธันวาคม 2021 และเขาก็ยังคงอยู่ในที่คุมขังมาจนถึงทุกวันนี้
ในอีกด้านหนึ่ง Mohamed Aghannaj ทนายความของ Clausi ยังคงพยายามพาลูกความออกจากเรือนจำ แต่ในระหว่างการพิจารณาลดหย่อนโทษ มีการเปิดเผยว่า Clausi เคยใช้สกุลเงินดิจิทัลเพื่อซื้อนาฬิกาสวิสราคาแพงจำนวนสามเรือน จึงเป็นผลให้ศาลปฏิเสธการลดหย่อนโทษของ Clausi พร้อมทั้งสั่งให้เขาจ่ายค่าชดเชยให้กับเจ้าของนาฬิกากว่า 40,000 dirhams (ประมาณ 365,775 บาท)
ตามคำบอกเล่าของทนายความ Clausi จะยังคงอยู่ในคุกต่อไปอีกสองเดือน ทั้งนี้พ่อของ Clausi ได้กล่าวว่าลูกชายของเขามีแผนจะย้ายไปอยู่ที่โมร็อกโก เพราะเขาต้องการสร้างบริษัทเว็บเทรด Crypto ในแอฟริกาที่มีชื่อว่า Africa Pay และไม่รู้ว่าการที่เขาซื้อสิ่งต่าง ๆ ด้วย Crypto จะส่งผลร้ายแรงตามมา
ที่มา: gagarin.news