Tether บริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง USDT ได้เดินหน้าไปอีกก้าวของการยอมรับ Bitcoin ตามประกาศเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนได้รวมมือกับรัฐบาลของประเทศจอร์เจียในยุโรปตะวันออก
Paolo Ardoino CTO ของ Tether ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นบน Twitter ว่า
“ข่าวระทึก! #Tether และรัฐบาลจอร์เจียกำลังร่วมมือกันเพื่อทำให้จอร์เจียเป็นโรงไฟฟ้าระดับโลกในด้าน Bitcoin การสื่อสารแบบ peer-to-peer และเทคโนโลยี บล็อกเชน”
Tether กำลังสร้างโรงไฟฟ้า Bitcoin?
Ardoino อธิบายผ่าน Twitter ว่าเขาใช้เวลาสามวันที่ผ่านมาใน Tbilisi, Georgia Ardoino ชื่นชมความสวยงามของประเทศและประกาศว่า Tether และกระทรวงเศรษฐกิจของจอร์เจียได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อร่วมมือกันในประเด็นต่าง ๆ
สิ่งเหล่านี้รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับ Bitcoin และเทคโนโลยีบล็อกเชน โครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินสำหรับผู้ค้า และระบบการสื่อสารแบบเพียร์ทูเพียร์แบบเปิดและเป็นส่วนตัวที่ยืดหยุ่นซึ่งใช้เทคโนโลยีของ Holepunch
Ardoino เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ CSO ของบริษัท ซึ่งให้บริการชุดโมดูล Javascript เพื่อสร้างแอปพลิเคชัน P2P ที่หลากหลายไม่จำกัด ตั้งแต่ VPN ไปจนถึงเครื่องมือสื่อสารอย่าง Keet ส่วนหลังเป็นแอปแชทแบบ P2P ที่พัฒนาด้วยแพลตฟอร์ม Holepunch ที่อนุญาตให้ทุกคนสร้างแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์
ในการแถลงข่าว อย่างเป็นทางการ รัฐมนตรีช่วยว่าการ Irakli Nadareishvili ยังระบุว่า Tether สนใจที่จะลงทุนในจอร์เจีย เพื่อจุดประสงค์นี้ บริษัทจะจัดตั้งกองทุนพิเศษสำหรับสตาร์ทอัพในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังตกลงความร่วมมือด้าน “ภาคการศึกษา”
“เพื่อจุดประสงค์นี้ บริษัทจะสร้างกองทุนพิเศษสำหรับสตาร์ทอัพในท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน และวางตำแหน่งจอร์เจียเป็นประเทศที่มีระบบนิเวศที่น่าสนใจสำหรับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี”
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์จึงมีเป้าหมายเพื่อวางตำแหน่งให้จอร์เจียเป็นศูนย์กลางสำหรับเทคโนโลยีเพียร์ทูเพียร์และบล็อกเชน และก่อให้เกิดการปฏิวัตินวัตกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งสร้างโรงงานไฟฟ้าระดับโลกสำหรับ Bitcoin อีกด้วย
“ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลจอร์เจีย Tether ตั้งเป้าที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เฟื่องฟูสำหรับการใช้เทคโนโลยีแบบ peer-to-peer ภายในจอร์เจีย”
ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญสำหรับ Tether แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพของสกุลเงินดิจิทัล Tether มีเป้าหมายที่จะเสริมอำนาจให้กับเมืองต่างๆ และอำนวยความสะดวกในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ เช่น Bitcoin รวมถึงโซลูชันเทคโนโลยีแบบเพียร์ทูเพียร์ เช่น Keet และ Holepunch
ความคิดริเริ่มนี้ยังมีเป้าหมายที่จะไม่เพียงแต่สนับสนุนสตาร์ทอัพในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกิจการร่วมค้าของผู้ประกอบการที่มีอยู่ และเร่งสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกสู่นอกประเทศอีกด้วย
Tether ก้าวเหนือ BlackRock
ในบล็อกโพสต์ล่าสุด Tether อวดว่าพวกเขาสามารถทำรายได้ในปีนี้มากกว่า BlackRock ผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เห็นได้ชัดว่า Tether จะทำรายได้ 6 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ตรงกันข้ามกับ BlackRock ที่ 5.5 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม Tether สามารถเรียกคืนมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ได้อย่างง่ายดายในเวลาประมาณแค่ 20 วันแม้ว่าจะถูกทำ Black Swan ในปี 2022
บริษัท zhe กล่าวว่า Black Swan เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญและเชื่อว่า “ไม่มีธนาคารอื่นใดในประวัติศาสตร์การเงิน” ที่สามารถเรียกคืนมูลค่าได้โดยไม่ล้มละลาย อีกทั้งยังเป็นที่น่าสังเกตว่า Tether ได้ลงทุนกำไรบางส่วนใน Bitcoin ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งปัจจบันส่งผลดีและสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้เป็นจำนวนมาก