ในการพูดคุยกับ Matt Huang ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของ Paradigm เมื่อไม่นานมานี้ Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้แสดงความกังวลต่อนโยบาย Crypto ของสหรัฐฯ ท่ามกลางการฟ้องร้องคดีของ SEC ต่อ Binance และ Coinbase สองกระดานเทรดยักษ์ใหญ่ของโลก
ข้อกล่าวหาของ SEC ต่อ Binance และ Coinbase รวมไปถึงการจัดประเภทหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนหลายสกุลทั้ง Solana (SOL), Cardano (ADA), Polygon (MATIC), Coti (COTI), Algorand (ALGO), Filecoin (FIL), Cosmos (ATOM), Sandbox (SAND), Axie infinity (AXS), Decentraland (MANA), BNB (BNB), Voyager Token (VGX), Chiliz (CHZ), NEAR protocol (NEAR), Flow (FLOW), Dash (DASH), NEXO (NEXO) และ Internet Computer (ICP)
ข้อกล่าวหาดังกล่าวทำให้โทเค็นที่ถูกกล่าวหามีสถานะไม่มั่นคง สร้างความเสี่ยงให้แก่ตลาดและนักลงทุน รวมไปถึงผู้สร้างโทเค็น ตามที่ Jesse Overall และ Steve Gatti ทนายความจาก Clifford Chance บริษัทด้านกฎหมายจากสหราชอาณาจักรฯ กล่าวกับ CoinDesk เมื่อไม่นานมานี้
ในเรื่องนี้ ความเห็นของ Vitalik Buterin ได้สะท้อนถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเครือข่ายบล็อกเชนอื่น ๆ รวมไปถึงบล็อกเชนคู่แข่งอย่าง Solana ซึ่งเขาได้แสดงความเสียใจต่อ Solana และโปรเจกต์อื่น ๆ ที่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีในครั้งนี้ พร้อมกล่าวว่า “พวกเขาไม่สมควรประสบกับสิ่งนี้ และหากผลสุดท้าย Ethereum เป็น ‘ผู้ชนะ’ จากการที่บล็อกเชนอื่น ๆ ถูกเตะออกจากกระดานเทรด มันก็ไม่ใช่หนทางที่ทรงเกียรติในการชนะ ในระยะยาวมันไม่ใช่ชัยชนะเลยด้วยซ้ำ”
ข้อคิดเห็นของ Vitalik Buterin เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า คู่แข่งที่แท้จริงของโปรเจกต์บล็อกเชนต่าง ๆ ไม่ใช่โปรเจกต์บล็อกเชนอื่นใด แต่เป็นโลกรวมศูนย์ที่กระจายตัวอย่างรวดเร็วบนพื้นที่กระจายศูนย์ โดยเขาได้สรุปความเห็นของเขา ด้วยการหวังให้ “โปรเจกต์ที่น่ายกย่องเหล่านี้” ได้รับผลลัพธ์ที่ยุติธรรมจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น