ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 Elon Musk CEO ของ Tesla ได้ออกมาประกาศว่า Tesla จะหยุดรับการชำระเงินด้วย Bitcoin (BTC) โดยให้เหตุผลว่า “พวกเรารู้สึกกังวลเกี่ยวกับอัตราการใช้เชื้อเพลิงสำหรับการขุด Bitcoin และการทำธุรกรรม โดยเฉพาะถ่านหิน ที่มีผลกระทบที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าเชื้อเพลิงใด ๆ”
Musk กล่าวข้อความดังกล่าวเมื่อปี 2021 พร้อมกับตั้งเกณฑ์ไว้ว่า Tesla จะกลับมารับการชำระเงินด้วย Bitcoin อีกครั้ง ถ้าหากนักขุดใช้แหล่งพลังงานสะอาดอย่างน้อย 50%
หลังจากผ่านมานานกว่าสองปี ในที่สุด รายงานจากนักวิเคราะห์ของ Bloomberg ก็แสดงให้เห็นว่า เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้สำหรับการขุด Bitcoin มาจากแหล่งหมุนเวียนเกิน 50% แล้วในขณะนี้ โดยส่วนหนึ่งมาจากนักขุดที่อพยพไปดำเนินการยังต่างประเทศ เพื่อหลบเลี่ยงคำสั่งแบนอุตสาหกรรมคริปโตในจีน
เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา Jamie Coutts นักวิเคราะห์ของ Bloomberg รายงานผ่านแพลตฟอร์ม X (Twitter) ว่าเปอร์เซ็นต์ของพลังงานการขุด Bitcoin ที่มาจากแหล่งหมุนเวียนนั้นเกิน 50% แล้วในปัจจุบัน อีกทั้งยังมี “การปล่อยมลพิษลดลง บวกกับอัตรา hash rate ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก”
จากข้อมูลของ Coutts การผลักดันไปสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียนนั้น เป็นผลมาจากการที่นักขุดพากันย้ายออกจากประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง หลังจากประเทศจีนสั่งห้ามขุด Bitcoin ในปี 2021 เช่นเดียวกับบางประเทศที่หันมาทำเหมืองขุด Bitcoin กันมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ด้วยการใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานสำรองและพลังงานส่วนเกิน
ในปัจจุบัน ประเทศที่ลงทุนในอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin เช่นเดียวกับเอลซัลวาดอร์ (El Salvador) ได้แก่ ภูฏาน โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เมื่อนำข้อมูลจาก Coutts มาประกอบกับเกณฑ์มาตรฐานด้านพลังงานหมุนเวียน 50% ของ Tesla ทำให้ชุมชนคริปโตสันนิษฐานกันว่าหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกอาจกำลังพิจารณาการนำ Bitcoin กลับมาใช้งานอีกครั้ง แต่ดูเหมือน CEO ของ Tesla จะไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวใด ๆ เกี่ยวกับการชำระเงินด้วย BTC
ในขณะที่เขียนบทความนี้ ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 26,572 ดอลลาร์ โดยเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.44% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ที่มา: cointelegraph